Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการประชาสัมพันธ์ “กลโกงของมิจฉาชีพ ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อให้ประชาชาชนรู้เท่าทันกลโกงรูปแบบต่างๆพร้อมช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฏิบัติงานและให้ความรู้กับประชาชนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงปีที่ ผ่านมาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มมิจฉาชีพมีกลโกงวิธีการหลอกลวงประชาชนหลากหลายรูปแบบส่งผลให้ทั้งภาคส่วนธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เช่น การโทรศัพท์อ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เอกชน ธนาคารรวมทั้งอ้างชื่อ ไปรษณีย์ เพื่อทำการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อไปทำธุรกิจกรรมผ่านธนาคารหรือจ่ายเงินให้กับบุคคลที่แอบอ้างจำนวนมาก หลอกลวงถามเลขที่บัตรประชาชนเพื่อนำไปใช้ทำธุรกิจกรรมออนไลน์ รวมทั้งหลอกลวงให้ชำระค่าพัสดุที่ไปรษณีย์ไม่สามารถนำจ่ายได้ จนกลายเป็นข่าวและคดีความรายวันซึ่งไปรษณีย์ไทยได้เล็งเห็นช่องทางในการที่จะเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวเตือนภัยผ่านช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้ประชาชนรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพที่ใช้กลวิธีหลอกลวงที่ซับซ้อนขึ้นในรูปแบบวิธีกลดกงและหลอกลวงรูปแบบใหม่ๆ โดยที่ประชาชนคนไทยบางกลุ่มยังรู้ไม่เท่าทัน จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกระจายประเด็นเหล่านี้ให้เข้าถึงทุกภาคส่วน ทำให้ประชาชนทราบถึงภัยออนไลน์ และวิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

ไปรษณีย์ไทย สตช.

ไปรษณีย์ไทยจึงได้ร่วมกับ สตช. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการประชาสัมพันธ์ “กลโกงของมิจฉาชีพ ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อให้ประชาชาชนรู้เท่าทันกลโกงรูปแบบต่างๆ พร้อมช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฏิบัติงานและให้ความรู้กับประชาชนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นโดยไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ จะทำหน้าที่เป็นผู้ขนส่งสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนำร่องจำนวน 1,500,000 ชุด ไปยังบ้านเรือนประชาชนทั่วประเทศ เพื่อให้รู้เท่าทัน ไม่หลงกล และตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และจัดส่งอีกจำนวน 500,000 ชุด ไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีสื่อหรือเครื่องมือ ในการประชาสัมพันธ์ความรู้ให้แก่ประชาชน

ไปรษณีย์ไทย สตช.

สำหรับกรณีที่มิจฉาชีพนำส่งสิ่งของผิดกฎหมายที่เป็นข่าวตามสื่อที่ผ่านมานั้น ในขณะนี้ไปรษณีย์ได้เข้มงวดในการตรวจสอบประวัติผู้นำส่งและผู้รับที่กระทำความผิดดังกล่าวร่วมกับฐานข้อมูลอาญชญากรรมของทาง สตช. เพื่อนำมาประกอบการตรวจสอบและหากพบว่ามีการกระทำความผิดอีกจะได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุมและดำเนินคดีต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้บริการส่งสิ่งของต่างๆผ่านทางไปรษณีย์

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียังมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 600-700 ราย แม้ตำรวจจะเร่งปราบปรามจับกุมทุกมิติมาต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนร้ายจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการกลโกง หลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และกระทบต่อระบบเศรษกิจของประเทศ  ตำรวจเพียงหน่วยเดียวจึงไม่สามารถแก้ปัญหา จำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะประชาชน ถือเป็นด่านแรกของการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหา จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มไซเบอร์วัคซีนให้ถึงประชาชนโดยเร็วและมากที่สุด สำหรับความร่วมมือกับทางไปรษณียืไทยในครั้งนี้จะเป็นการช่วยสร้างรุปแบบการดำเนินคดี รวบรวมผู้กระทำความผิดและประชาสัมพันธ์การกระทำความผิดของมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆให้ประชาชนรับทราบรู้เท่าทันรูปแบบกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพ 18 รูปแบบ   ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะจัดส่งสื่อประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในรูปแบบเอกสาร ขนาด A4 สําหรับแจกจ่ายให้ประชาชน จํานวน 20 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ และโปสเตอร์ ขนาด A3 สําหรับสถานีตํารวจทั่วประเทศ โดยจะเริ่มทยอยจัดส่งสื่อเอกสารประชาสัมพันธ์ภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 นี้


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard