บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเผยผลประกอบการ ไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ.2566 กวาดยอดขาย Q1/2566 ทะลุ 12,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 47% “ออริจิ้นเพลย์” และ “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์” นำทัพโกยยอดคอนโดเจาะคนรุ่นใหม่ ทยอย Sold Out หลากทำเล “แกรนด์บริทาเนีย” เครือ BRI รักษาตำแหน่งท็อปแบรนด์สร้างยอดขายบ้านจัดสรร ด้าน Q2/2566 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่า 12,520 ล้าน กระจายบุกทั่วประเทศ ตามแผน Origin Infinity
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2566 (ม.ค.-มี.ค.2566) บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมได้ประมาณ 12,004 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ประมาณ 47% แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมราว 79% และยอดขายจากบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีกราว 21% ทั้งนี้ ยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ราว 49% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขาย (New Launch) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) ประมาณ 51%
สำหรับแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากผู้บริโภคในไตรมาสดังกล่าว คือคอนโดมิเนียมแบรนด์ออริจิ้นเพลย์ (Origin Play) และแบรนด์ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์ (Origin Plug & Play) แบรนด์คอนโดมิเนียมเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ เช่น ออริจิ้นเพลย์ บางขุนนนท์ ทริปเปิ้ลสเตชั่น (Origin Play Bangkhunnon Triple Station) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์ รามอินทรา (Origin Plug & Play Ramintra) เนื่องจากได้รับการตอบรับจากทั้งฟังก์ชันที่โดดเด่น และการออกแบบที่เข้าใจผู้บริโภค Gen Y และ Gen Z
ขณะเดียวกัน แบรนด์บ้านจัดสรรอย่าง แกรนด์บริทาเนีย (Grand Britania) เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Soldoutโครงการแกรนด์บริทาเนีย บางนา กม.12 (Grand BritaniaBangna KM.12) อีกทั้งยังมีโครงการแกรนด์บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Grand BritaniaRatchaphruek-Rama 5) และ แกรนด์บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา (Grand BritaniaWongwaenRamintra) ที่ได้ผลตอบรับดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากมีขนาดและดีไซน์ที่เข้าใจผู้บริโภคต้องการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว
สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/2566 นั้น ยังมีแนวโน้มได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากภาพรวมยอดขายของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาส 2/2566 นี้ บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,520 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,720 ล้านบาท บ้านจัดสรร 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,800 ล้านบาท
“เราจะยังคงกระจายตัวบุกไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตามแผนงาน Origin Infinity หรือแผนเติบโตไม่สิ้นสุดที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี โดย 11 โครงการในไตรมาส 2/2566 นั้น จะกระจายตัวบุกไปนอกกรุงเทพฯและปริมณฑลถึง 5 โครงการ ทั้งในชลบุรี ภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา และขอนแก่น มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,080 ล้านบาท” นายพีระพงศ์ กล่าว
สำหรับ บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business)พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 123 โครงการ (ณ สิ้นปี 2565) เช่น แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้งฮิลล์ (Notting Hill),ออริจิ้นเพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้นเพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 185,791 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business)เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business)เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends)กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นต้น เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร