คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติดูแลผลกระทบค่าครองชีพประชาชนโดยขยายเวลาตรึงราคา LPG ถังละ 408 บาทจากเดิมสิ้นปีนี้เป็นถึง 31 ม.ค. 66 พร้อมไฟเขียวขยับราคา NGV รถยนต์ทั่วไป 1 บาท/กก. 16 ธ.ค. เป็น 17.59 บาท/กก. จากราคาจริง 29.51 บาท/กก. และให้ตรึงราคานี้ต่อไปถึง 15 มี.ค. 66 ส่วน NGV สำหรับรถแท็กซี่ตรึงที่ 13.62 บาทต่อกก. ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65-15 มี.ค. 66 คาด ปตท.ควัก 2,682 ล้านบาทตรึง NGV ทั้ง 2 ส่วน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65กบง.ได้พิจารณาทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนเพื่อลดผลกระทบต่อภาคประชาชน โดยขยายมาตรการตรึงราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2565 โดยกำหนดให้ราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2566
“ราคา LPG ตลาดโลกในปัจจุบันยังคงผันผวน โดย ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 อยู่ที่ 633.60 เหรียญสหรัฐต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 480 บาทต่อถัง 15 กก. ขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กก. ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 1,352 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,883 ล้านบาท เข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 45,000 ล้านบาท ที่ประชุมเห็นว่าหากขยับเพิ่มจะเป็นภาระประชาชนจึงขยายเวลาการตรึงราคาต่อไป โดยมอบหมายให้ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
ส่วนของราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ยังมีมติเห็นชอบให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ NGV ดังนี้ รถยนต์ทั่วไป ให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV 1 บาทต่อ กก. จาก 16.59 บาทต่อ กก. เป็น 17.59 บาทต่อ กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2565 เป็นต้นไปจากต้นทุนที่แท้จริงที่ 29.51 บาทต่อ กก. และขอความอนุเคราะห์ให้ ปตท.พิจารณาโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ของ ปตท. ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่ ไว้ที่ 13.62 บาทต่อ กก. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2566 และคงราคา NGV รถยนต์ทั่วไปที่เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 16 ธันวาคม ถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2566 ดังนั้น จึงคาดว่า ปตท.จะใช้เงินช่วยเหลือรอบนี้รวม 2,682 ล้านบาท
นอกจากนี้ กบง.มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนรวมถึงช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2566 ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.6 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร โดยขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตรและที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบแผนบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2566 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ.2566 เช่น มาตรการขอความร่วมมือประหยัดพลังงานในภาคธุรกิจ/อุตสาหกรรม จัดหาก๊าซในประเทศและเพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด การบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการลดการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคปิโตรเคมี และภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมทั้งยังมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการยกเว้นการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะปริมาณที่จำหน่ายเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและขายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการการใช้น้ำมันดีเซล น้ำมันเตาทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า ในช่วงสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน เป็นต้น