กระทรวงคมนาคม เปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) สาย 8 (2-38) นำร่องเริ่มเดินรถในเดือนสิงหาคม 2565 จำนวน 5 เส้นทาง ใน คอนเซ็บต์ “We Come To Change Fast 8 To Feel Good เรามาเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกให้ดีขึ้น”ณ อู่บึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้19 สิงหาคม 2565 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยของการเปลี่ยนแปลงระบบรถโดยสารสาธารณะครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ที่กำลังจะร่วมกันก้าวข้ามผ่านการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็น “รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า” ที่ผลิตโดยคนไทย บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ได้แสดงศักยภาพ ส่งเสริมประเทศด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม สนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบขนส่งสาธารณะ และเร่งแก้ไขปัญหาการให้บริการระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางมาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบกว่าได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการขนส่งตามแผนการปฏิรูปรถโดยสารประจำทาง โดยผู้ประกอบการขนส่งจะเริ่มนำรถใหม่มาให้บริการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางที่เป็นรถปรับอากาศรูปแบบใหม่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สามารถให้บริการผู้โดยสารที่ใช้ Wheel Chairติดตั้งและใช้เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS) ติดตั้งและใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket System) ติดตั้งระบบ CCTV เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เส้นทางการเดินรถที่ครอบคลุม เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนทุกระบบ ตอบโจทย์การเดินทาง และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจร และปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
สำหรับการทดลองเริ่มเดินรถโดยสารจะเริ่มเดินรถในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 8 แฮปปี้แลนด์ -ท่าเรือสะพานพุทธ สายที่ 1 พระราม 3 – ท่าเตียน สายที่ 82 ท่าน้ำพระประแดง – บางลำพู สายที่ 34 บางเขน -ถนนพหลโยธิน – หัวลำโพง และสายที่ 17 พระประแดง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และในเดือนกันยายนจนถึงปลายปี 2565จะสามารถทยอยนำรถใหม่มาให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ได้ครบทั้ง 77 เส้นทาง จำนวน 972 คัน และยังมีผู้ประกอบการขนส่งรายที่ได้รับใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ จำนวน 278 คัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,250 คัน และในส่วนของเส้นทางการเดินรถโดยสารทั้งหมด 237 เส้นทางในกรุงเทพมหานครจะดำเนินการเปลี่ยนเป็นรถ EV ให้ครบทั้งหมดในระยะต่อไป
ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกเจรจากับผู้ประกอบการขนส่งให้พิจารณาลดอัตราค่าโดยสารให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบกภายหลังเจรจากับผู้ประกอบการขนส่งแล้วทราบว่า บริษัทได้พิจารณาจัดเก็บค่าโดยสารที่ราคา 10 บาท ตลอดสาย เป็นเวลา 3 เดือน เป็นอย่างน้อย สำหรับประชาชนผู้เดินทางซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและในระยะต่อไปบริษัทได้มีการวางแผนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละวันของพี่น้องประชาชน โดยการจัดทำตั๋วรายวันซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางภายในระบบรถโดยสารเอง และต่อเนื่องไปยังระบบการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ นอกจากนี้ สำหรับพนักงานขับรถและผู้ประจำรถของผู้ประกอบการรายเดิมที่ได้รับผลกระทบจากการออกใบอนุญาตประกอบการให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกรวบรวมรายชื่อพนักงานหรือลูกจ้างของผู้ประกอบการรายเดิม และประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรายใหม่พิจารณารับพนักงานและลูกจ้างดังกล่าวเข้าเป็นพนักงานต่อไป
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา จำกัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังร้อนขึ้น จากการเดินทางด้วยรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และฝุ่นควันมากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิด PM2.5 บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด จึงได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือ EV Bus มาใช้ทดแทนรถโดยสารแบบเดิมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้ได้เล็งเห็นถึงโอกาส ในการพัฒนาคุณภาพของการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ อันจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ ได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการ รวมถึงได้เตรียมพร้อมที่จะเชื่อมต่อการเดินทาง แบบระบบเครือข่าย “รถ-เรือ-ราง” ครบวงจร ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถ (กับตันเมล์) และพนักงานต้อนรับบนรถโดยสาร (บัสโฮสเตส) ให้มีความรู้ ความชำนาญในเส้นทาง และมีจิตวิญญาณของการให้บริการ คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ด้วยเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ดังสโลแกน“เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ”