สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานว่าจากข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-กรกฎาคม พ.ศ.2565) มีปริมาณ 4,085,198 ตัน มูลค่า 71,105.4 ล้านบาท (2,127.1 ล้านเหรียญสหรัฐ)โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 53.6% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 41.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2564 ที่ส่งออกปริมาณ2,659,012 ตัน มูลค่า 50,108.3 ล้านบาท (1,646.6 ล้านเหรียญสหรัฐ)
การส่งออกข้าวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2565 มีปริมาณ578,177 ตัน มูลค่า 10,173.2 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออก ลดลง 24.3% และ 22.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 ที่มีปริมาณ 764,131 ตันมูลค่า 13,129.5 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้การขนถ่ายสินค้าขึ้นเรือต้องล่าช้ากว่ากำหนดจึงทำให้การส่งออกข้าวทุกชนิดมีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ในช่วงนี้ยังคงมีอุปสรรคจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งมอบข้าวประสบปัญหาล่าช้ากว่ากำหนดสมาคมฯจึงคาดว่าในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 การส่งออกข้าวจะอยู่ที่ 600,000-650,000 ตัน ขณะที่ผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาที่ค้างส่งมอบจากเดือนก่อนพอสมควรโดยเฉพาะตลาดสำคัญในตะวันออกกลาง เช่น อิรัก ตลาดเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ตลาดแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ เบนิน โมซัมบิก แองโกลา ตลาดอเมริกา เช่น สหรัฐฯ แคนาดา เป็นต้น
ภาวะราคาข้าวของไทยช่วงนี้มีแนวโน้มปรับลดลงตามทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาข้าวขาว5% ของไทย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 อยู่ที่ 428 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 393-397, 338-342 และ 378-382 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 442 เหรียญสหรัฐต่อตัน ข้าวนึ่งของอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 378-382 และ 398-402 เหรียญสหรัฐต่อตัน