Advertisement
Leaderboard 728x90

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยในปี พ.ศ.2566 สสว.เตรียมงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท พัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยตั้งเป้าหมาย 6,000 ราย ผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน”ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ (BDS)

วชิระ กอแก้ว

นายวชิระ กอแก้ว รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องเจอกับปัจจัยเสี่ยงจำนวนมาก โดยเฉพาะสงครามรัสเซีย-ยูเครน การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น เอสเอ็มอีต้องมีการเพิ่มศักยภาพตัวเองเพื่อปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่ง สสว.ได้มีการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านโครงการต่างๆ ที่มีกรอบความช่วยเหลือตามเป้าหมายของแต่ละโครงการ

Advertisement
Kreamy Proof

โดยในปี พ.ศ.2566 สสว.เตรียมงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท พัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยตั้งเป้าหมาย 6,000 ราย ผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน”ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ (BDS) ซึ่ง สสว.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผู้ประกอบการแบบร่วมจ่ายในสัดส่วน 50-80%ตามขนาดของธุรกิจของผู้ประกอบการที่ต้องการรับความช่วยเหลือ สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท รวมทั้งเข้าถึงบริการผู้ให้บริการทางธุรกิจที่ขึ้นทะเบียนในระบบกว่า 90 หน่วย เช่น สถาบันอุตสาหกรรมสิ่งทอ สถาบันอาหาร สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่หลากหลายมากกว่า 120 บริการ

“สสว.คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ 4 กลุ่มสนใจเข้ารับการพัฒนา ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บริการเพื่อสุขภาพ นำเที่ยวหรือจำหน่ายของที่ระลึก รองรับนโยบายการเปิดประเทศ 2.กลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการผลิตยาและสมุนไพร 3.กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ในอุตสาหกรรมการบิน อากาศยานและเครื่องมือแพทย์ และกลุ่ม BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว)ในภาคการผลิต การเกษตรแปรรูป การค้าและบริการอื่นๆ โดย สสว.จะขยายเวลาโครงการไปจนถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2566 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการได้ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2566” นายวชิระกล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา 6 เดือน มาตรการ SME ปัง ตังได้คืน มีผู้ประกอบการสมัครใช้งานในระบบแล้วกว่า 2,000 ราย และยังมีสมัครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาไปแล้วกว่า 300 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสนใจพัฒนาด้านคุณภาพ และมาตรฐานสินค้าและบริการ อยู่ที่ 87% และสนใจพัฒนาด้านช่องทางการจำหน่าย และการตลาด และพัฒนาด้านการตลาดต่างประเทศ 13%


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard