Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ เผยผลดำเนินงาน Q3/65 ขาดทุนลดลง 75% เมื่อเทียบกับ Q2/65 ชี้แนวโน้มผลประกอบการดีขึ้น จากส่วนแบ่งกำไรโครงการ ‘ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ คอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่ที่สร้างเสร็จและเริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี’65 ประกาศปี’66 มุ่งมั่นดันผลประกอบการ ‘เทิร์นอะราวด์’ จากกลยุทธ์ Asset Light ช่วยลดต้นทุน ลดดอกเบี้ย และเตรียมเปิดให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอที่สูงที่สุดในไทย ‘วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์’ เพื่อหนุนฐานรายได้ประจำของบริษัท ให้มีกระแสเงินสดเข้ามาต่อเนื่อง พร้อมปักธงเปิด Branded Residences อีก 2 โครงการ

กรณ์ ณรงค์เดช

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี พ.ศ. 2565 ของบริษัทฯ ขาดทุน 47.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2565 ที่ขาดทุน 193    ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากแบ็กล็อกโครงการเดอะลอฟท์ สีลม และยังมีรายได้ประจำจากค่าบริหารโครงการ และค่าธรรมเนียมการตลาด ส่วนผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนมาจากส่วนแบ่งกำไรโครงการ ‘ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ คอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่หนึ่งเดียวใจกลางถนนสุขุมวิท ที่สร้างเสร็จและเริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565  ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง ไรมอน แลนด์ และ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด โดยมียอดขายแล้วถึง 75% และเริ่มมีการทยอยโอนอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้จะทำยอดโอนได้ราว 2,000 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ ส่วนอีกหนึ่งโครงการภายใต้การร่วมทุนกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ คือ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ใจกลางสาทร ก็มียอดขายแล้วกว่า 85% ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์ของทั้งสองบริษัท โดย ไรมอน แลนด์ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญยาวนานกว่า 35 ปี และโตเกียว ทาเทโมโนะก็เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

ทั้งนี้ ในปีพ.ศ. 2565 บริษัทจะทยอยรับรู้ยอดขายรอโอน (แบ็กล็อก) ซึ่ง ณ วันที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2565 บริษัทมีแบ็กล็อกมูลค่า 6,100  ล้านบาท โดยเป็นแบ็กล็อกจากโครงการ ‘ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ที่สร้างเสร็จพร้อมโอน มูลค่า 2,700  ล้านบาท และแบ็กล็อกโครงการระหว่างก่อสร้าง ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ มูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2566

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2566 บริษัทมุ่งมั่นการเทิร์นอะราวด์ ให้รับรู้รายได้เร็ว สร้างสมดุลและกระจายรายได้ทั้งอสังหาฯ และรายได้ประจำมากขึ้น โดยต้นปีเตรียมเปิดให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอที่สูงที่สุดในไทย ‘วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์’ บนทำเลศักยภาพติดบีทีเอสเพลินจิต ซึ่งเป็นโครงการเมกะโปรเจคที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง ไรมอน แลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น หลังจากเปิดให้บริการจะเป็นปัจจัยหนุนให้ ไรมอน แลนด์ มีรายได้ประจำและกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ธุรกิจ Asset light โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นเจ้าของที่ดิน นำที่ดินมาพัฒนาโครงการร่วมกัน ซึ่งกลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ในรูปแบบ Branded Residence 2 แห่ง โดยปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายบริษัทอยู่ที่ 8,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี สำหรับการลงทุนเปิดโครงการต่างๆ นั้น บริษัทมีแหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน การหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนในโครงการ และการออกหุ้นกู้ โดยบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งสำหรับการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคมพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา มูลค่ารวม 250 ล้านบาท ซึ่งจะขายในเดือนพฤจิกายนนี้ และมีแผนจะออกหุ้นกู้ครั้งที่ 3 มูลค่ารวมไม่เกิน 400 ล้านบาทภายในปลายปีพ.ศ. 2565 ซึ่งทั้งหมดบริษัทคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดียวกับหุ้นกู้ที่ออกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่ารวม 1,050 ล้านบาท ที่ขายหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard