บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เผย Q3/66 กำไร 1,182 ล้านบาท ลดลง 47% เหตุรายได้ลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า หลังต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ขณะที่งวด 9 เดือน กำไร 4,754.69 ล้านบาท ลดลง 21%
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCHเปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 10,643 ล้านบาท ลดลง8.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนืีองจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก HPC ลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผน เพื่อรักษาประสิทธิภาพการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าและมีกำไรสุทธิ 1,182.17 ล้านบาท ลดลง 47%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,248.22 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้า จำนวน 39,196 ล้านบาท คิดเป็น 96%ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจนอกภาคผลิตไฟฟ้า (Non-Power) จำนวน 1,585 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้รวม ซึ่งรายได้ที่รับรู้จากโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ เป็นจำนวน 4,127 ล้านบาท ได้แก่ โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง 98 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานลมลินคอล์น แก็ป1amp;2 และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสแนปเปอร์พอยท์ ในออสเตรเลีย กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 212 เมกะวัตต์ และ 154 เมกะวัตต์ ตามลำดับ อีกทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำค็อคซาน และซองเกียง 2 ในเวียดนาม กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 17.37 เมกะวัตต์ และ 17.10 เมกะวัตต์ ตามลำดับ ทำให้งวด9เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,754.69 ล้านบาท ลดลง21%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,023.67 ล้านบาท
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการลงทุนโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ในแผนงาน รวมถึงบริหารสินทรัพย์ และต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความมั่นคงของรายได้และให้บรรลุเป้าหมาย EBITDA เติบโตถึง 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ผลักดันการพัฒนาและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าที่ลงทุนแล้ว ซึ่งมีกำลังการผลิตตามการถือหุ้นรวม 2,918.23 เมกะวัตต์ ให้ก้าวหน้าและแล้วเสร็จเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนด ล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีโค่วิน ในเวียดนาม กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 15.16 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู ได้เริ่มเปิดให้บริการบางส่วน โครงการผลิตชีวมวลอัดแท่ง ในสปป. ลาว กำหนดจะเริ่มการผลิตในปลายปีนี้ สำหรับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลหรือ ESG ยังคงเดินตามกลยุทธ์ความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2593” นางสาวชูศรี กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2566 จำแนกรายได้ตามประเภทธุรกิจ ประกอบด้วย รายได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล จำนวน 33,609 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของรายได้รวม รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จำนวน 5,587 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14 และรายได้จากธุรกิจ Non-Power จำนวน 1,585 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4