Advertisement
Leaderboard 728x90

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจแม็คโคร” ซึ่งประกอบด้วยทั้งแม็คโคร และโลตัส ได้วางแนวคิดในการดำเนินธุรกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่ พร้อมตั้งเป้าหมายร่วมกันในการเป็นองค์กรคาร์บอนสมดุล (Carbon Neutral) ภายในปี 2030 โดยให้เครือข่ายสาขาทั้งแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศเกือบ 3,000 แห่ง ผนึกกำลังกันเพื่อเร่งขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมทุกด้าน รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น

แม็คโคร

โดยแม็คโครได้วางแนวทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่ ซึ่งปี 2022 ได้วางโรดแมปการใช้พลังงานสะอาดในสาขา โดยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) จำนวน 52 สาขา ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ประมาณ 20,000 ตัน CO2e ต่อปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้น นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการพลังงานภายในสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเปลี่ยนโคมไฟแสงสว่างเป็นหลอด LED ประสิทธิภาพสูง รวมถึงเปลี่ยนระบบทำความเย็นและน้ำยาทำความเย็นของตู้แช่แข็งและตู้แช่อาหารสด ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งใช้ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงถึง 5,460,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ 2,800 ตัน CO2e ต่อปี ซึ่งตั้งเป้าดำเนินการให้ครบเกือบทุกสาขาภายในปีค.ศ. 2024

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

แม็คโคร

ส่วนของโลตัสได้ดำเนินการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสาขาไปแล้ว 98 สาขา และในปี 2022 จะมีสาขาที่มีการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ใช้เองได้ถึง 566 แห่ง ซึ่งจะมีกำลังการผลิตโดยรวม 101 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 12% ของการใช้ไฟฟ้ารวมทั้งหมดในธุรกิจ และคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2024 จะเพิ่มขึ้นเป็น กว่า 13.4% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ครอบคลุมกว่า 1,042 สาขา

“กลุ่มธุรกิจแม็คโครxโลตัสเชื่อมั่นว่า การใช้พลังงานสะอาด โดยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ถือเป็นทางเลือกที่มีความยั่งยืน ทั้งในมิติเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แล้วยังมีโครงการอื่น ๆ เช่นการใช้รถ EV ในการ์ขนส่งสินค้าของโลตัส การปลูกป่า เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างความสมดุลคาร์บอนตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ” นายธานินทร์กล่าว


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard