สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ยังแจ่ม อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นช่วยดันสุดพลัง ต่างชาติแห่เข้าไทยพุ่งทะยาน 1,815.9% ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคขยับต่อเนื่อง 6 เดือนติด หลังมั่นใจเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง-ทิศทางราคาสินค้าและค่าครองชีพลดลง ส่งออกโตแผ่ว -6% เหตุอุปสงค์ประเทศคู่ค้าชะลอ
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย. 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทย กว่า 1.75 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัว 1,815.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย สิงคโปร์และเกาหลีใต้ และผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย กว่า 19.1 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัว 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จากระดับ 46.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงทิศทางราคาสินค้าและค่าครองชีพมีแนวโน้มลดลง
สำหรับภาพรวมการลงทุนภาคเอกชน ยังทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.2% ส่วนหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -3.9% ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.4% สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 22,308.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -6.0% เนื่องจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าชะลอลง ส่งผลให้สินค้าส่งออกของไทยลดลง
ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่ยังขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ขยายตัว 43.4%, ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และไก่แปรรูป ขยายตัว 20.9% และเครื่องดื่ม ขยายตัว7.1% รวมทั้งสินค้าเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบที่ขยายตัว และเมื่อจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี ตลาดที่ยังคงขยายตัว ได้แก่ สหราชอาณาจักร ขยายตัว 22.2%, ตะวันออกกลาง ขยายตัว 13.8%, ลาตินอเมริกา ขยายตัว 7.1% สหภาพยุโรป ขยายตัว 3.2% และสหรัฐฯ ขยายตัว 1.2%
ในส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่2.4% ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 93.5 จากระดับ 93.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศตามการขยายตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลต่อการผลิตและส่งออกสินค้าในระยะต่อไป ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -5.6%