Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ปซื้อหุ้นเพิ่มอีก 10% ในโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” และ “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ ส่งผลให้เอ็กโกกลายเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง รับรู้รายได้เพิ่มทันที

เทพรัตน์ เทพพิทักษ์

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ปกล่าวว่า บริษัทได้ซื้อหุ้นเพิ่มในสัดส่วน 10% ของบริษัท ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม จำกัด และบริษัท เทพพนา วินด์ฟาร์ม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” และ “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ ตามลำดับ ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม โดยการซื้อและโอนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมได้เสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ส่งผลให้เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด 100% ในโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

โรงไฟฟ้าลม

สำหรับโรงไฟฟ้า “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” ตั้งอยู่ใน อำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีกำลังผลิตติดตั้ง 80 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer – SPP) ประเภทสัญญา Non-firm ในขณะที่โรงไฟฟ้า “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” ตั้งอยู่ใน อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มีกำลังผลิตติดตั้ง 7.5 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer – VSPP) เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อปี พ.ศ.2559 และปี พ.ศ.2556 ตามลำดับ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งมีผลการดำเนินงานที่ดี มีค่าความพร้อมจ่ายสูง เครื่องจักรได้รับการบำรุงรักษาอยู่ในสภาพที่ดี และยังตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและมีลมตลอดทั้งปี

“การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนของเอ็กโก กรุ๊ป ด้วยแนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” เพื่อให้สอดรับกับยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน ตลอดจนสนับสนุนให้บริษัทได้บรรลุเป้าหมายทั้งระยะกลางในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% และลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) ลง 10% ภายในปี พ.ศ.2573 ในขณะที่เป้าหมายระยะยาว คือการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี พ.ศ.2593” นายเทพรัตน์กล่าว


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard