Advertisement
Leaderboard 728x90

ไดกิ้น

บริษัทไดกิ้สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัดเปิดแผนกลยุทธ์ปี พ.ศ.2566 รักษาผู้นำระบบปรับอากาศแบบครบวงจรยกทัพเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครบทุกเซ็กเม้นท์ พร้อมปรับนโยบายเพิ่มงบประมาณโฆษณาการตลาดถึง 4 เท่า ทุกพื้นที่สื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ปักธงขยายฐานลูกค้า B2B และ B2C ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ารายได้โตสูงสุด 15% ด้วยการปรับนโยบายเพิ่มงบประมาณส่งเสริมการขาย พร้อมแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อกระตุ้นยอดขายในปีหน้ารักษาตำแหน่งการเป็นอันดับ 1 ในตลาดเครื่องปรับอากาศ

มร.ไดสุเกะ มุราคามิ

มร.ไดสุเกะ มุราคามิ ผู้จัดการใหญ่ บริษัทไดกิ้สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีพ.ศ.2565ที่ผ่านมาเราคาดการณ์ว่า มูลค่าภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศตกลงมา 1.5% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2564 ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ตลาดตกลงนั้นคาดว่ามาจากอัตราเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมาที่ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

Advertisement
Kreamy Proof

แต่ในขณะเดียวกัน ในส่วนของไดกิ้นเองยังสามารถเติบโตได้ดีในเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อย่างไรก็ดีปีหน้าคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดจะโตขึ้น 3% สาเหตุมาจากการกลับมาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และไดกิ้นตั้งเป้ารายได้โต 15% คาดว่ากลุ่มตลาดที่มีกำลังซื้อและกลุ่มเชิงพาณิชย์จะเติบโต ซึ่งทางเราได้มีการเตรียมความพร้อมปรับนโยบายเชิงรุก เสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาดด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมลูกค้ามากขึ้นทั้งกลุ่ม B2B และ B2Cเพื่อสะท้อนความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการปรับอากาศคุณภาพสูง “ไดกิ้น” (Daikin) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้ง B2B และ B2C ที่ปัจจุบันมีความใส่ใจกับคุณภาพของอากาศมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของ B2C นั้นเป็น เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง (Room Air) รุ่น FTKF-X และ FTKQ-X ที่มาพร้อมเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ใหม่ มีคุณสมบัติช่วยให้เย็นเร็ว โดยสามารทำให้อุณหภูมิลมออก ลดลงถึง 15 องศาเซลเซียสภายใน 2 นาที อีกทั้งยังสามารถทำความเย็นอย่างต่อเนื่องและประหยัดพลังงานมากขึ้น เพราะกินไฟต่ำสุดเพียง 70 วัตต์ในเวลากลางคืน และมีระบบทำความสะอาด ที่สามารถล้างและเป่าคอยล์เย็นได้ภายในตัว

ไดกิ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม B2B “ไดกิ้น” (Daikin) ได้เปิดตัว เครื่องปรับอากาศ VRV 6th Generation ด้วยระบบเครื่องปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ “ไดกิ้น” (Daikin) เป็นเจ้าตลาดมากว่า 40 ปี ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน ด้วยเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์ใหม่ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรุ่นมาตรฐาน ค่าไฟจะถูกลงกว่าเดิมถึง 30% อีกทั้งยังออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน โดยภายในได้ออกแบบอุปกรณ์ควบคุมใหม่ที่ทนทานมากกว่าเดิม ส่วนภายนอกมีการลดขนาดของเครื่องให้เล็กลง 20% ทำให้มีพื้นที่มากยิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวอาคารได้ อีกทั้งยังมีระบบโซลูชั่น Modular Chiller Plant ที่เป็นนวัตกรรมการประหยัดพลังงานและพื้นที่สูงสุด ภายในบรรจุระบบทำความเย็นอย่าง Magnetic Bearing Centrifugal Chiller ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประยุกต์ตามพื้นที่ใช้สอยสำหรับระบบปรับอากาศและระบบทำความเย็นใหญ่

เจษฎา ทรัพย์เจริญ

นายเจษฎา ทรัพย์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของกลยุทธ์การตลาดในปีหน้า เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ไดกิ้นได้วางแผนการรุกตลาดมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มงบประมาณส่งเสริมการขายถึง 4 เท่า ให้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน เพื่อเป็นการสร้างให้เกิดการรับรู้ บอกต่อ และกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการเพิ่มความถี่ในการสื่อสารการตลาด ใช้สื่อทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ รวมไปถึงสื่อโฆษณากลางแจ้ง (Out of home) ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในจุดที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ เพื่อเจาะให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วประเทศ

นอกจากการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เมื่อช่วงปลายปีแล้ว ช่วงปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ไดกิ้นได้เคลื่อนไหวทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อโปรโมททั้งเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการลงนามความร่วมมือโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมนำเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนหลายชุด (VRV) เข้าทดสอบเพื่อติดฉลากเบอร์ 5 ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.2566 เป็นต้นไป

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard