Advertisement
Leaderboard 728x90

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO)กล่าวว่า  ปัจจุบัน สภาวะโลกร้อนสภาพอากาศที่ปรวนแปร การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ การเกิดโรคระบาดที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลย เพราะเราต่างได้รับผลกระทบอยู่ทุกๆ วัน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากโควิดเอฟเฟค ดูจะเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญ ให้เกิดการปรับตัวอย่างรวดเร็ว จากผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในทุกด้าน แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเบื้อง ที่ผสมผสานเทคโนโลยีร่วมกับการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อส่งมอบพื้นที่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด( Well-being) ให้กับผู้พักอาศัย พร้อมขานรับนโยบายการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่ Circular Economy หรือระบบผลิตแบบหมุนเวียน ในรูปแบบที่ตัวเองสามารถทำได้ โดย COTTO ได้เริ่มจากการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยหลัก Circular Economy ในหลาก หลายสินค้าและกระบวนการแบบ Make (ผลิต)> Use (ใช้)> Return (ส่งคืน) ที่ให้ความสำคัญต่อการนำนวัตกรรมมาใช้ในการ ออกแบบสินค้าและบริการที่เน้นการรักษาต้นทุนด้านทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการจัดการของเสีย วัตถุดิบ สินค้าที่หมดอายุ และพลังงานให้กลับไปเป็นทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ เราจึงออกแบบสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวด ล้อมและดีต่อผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกระบวนการผลิตที่มีการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ มักจะมีวัตถุดิบบางส่วนที่เหลือทิ้งเป็นขยะ (Waste) และมลพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อม COTTO จึงให้ความสำคัญกับแนวคิด “Zero Waste” หรือการสร้างขยะเป็นศูนย์จากกระบวนการผลิต ด้วยการสร้างความหมุนเวียนในการใช้ทรัพยากรต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นขยะตามมา กระเบื้อง ECO COLLECTION มีจุดเริ่มต้นจากการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ โดยการนำ Waste ในกระบวนการการผลิตกลับมาใช้ใหม่ 80% เพื่อเป้าหมาย Zero Waste เมื่อไม่ได้ใช้วัตถุดิบใหม่ ก็สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการขนส่งวัตถุดิบลงถึง 75% และยังมีระบบหมุนเวียนน้ำในการผลิต จึงลดการใช้น้ำลงถึง 25% ปราศจากสารอินทรีย์ระเหย และไม่มีส่วนผสมของ Toxic Oxide หรือโลหะหนัก ที่มีผลต่อมนุษย์และธรรมชาติ นับเป็นกระเบื้องที่สะอาดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น มาสู่การหมุนเวียนไม่รู้จบ เพื่อทรัพยากรที่ยั่งยืน ส่งต่อเพื่ออนาคตจึงเป็นการตอบรับกับหลัก Circular Economy เพื่อสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมและโลกนอกจากการใช้น้ำในครัวเรือนแล้ว ในแวดวงอุตสาหกรรมก็มีการใช้ทรัพยากรน้ำเป็นจำนวนมากเช่นกัน อย่างเช่นในกระบวนการผลิตกระเบื้อง ซึ่งต้องมีการใช้น้ำเป็นองค์ประกอบจำนวนมาก COTTO จึงคิดค้นกรรมวิธีในกระบวนการผลิตกระเบื้องให้สามารถลดการใช้น้ำลง เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด จนได้นวัตกรรมที่สามารถการใช้น้ำในกระบวนการผลิตได้อย่างน้อย 25% อย่างในกระเบื้องตกแต่งทุกสี ทุกขนาด คุณจึงมั่นใจได้ว่า การเลือกใช้กระเบื้องจาก COTTO เป็นการเลือกเพื่อโลกที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

กระเบื้อง COTTO

ในยุคที่สุขภาพมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดีจึงควรเริ่มจากหลายๆ อย่างประกอบกัน ทั้งการทานอาหาร การออกกำลังกาย รวมถึงการปรับสภาพอารมณ์ให้แจ่มใส นอกจากการดูแลตัวเองจากภายในแล้ว เรายังควรดูแลตัวเองจากสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย เพราะเชื้อโรคในปัจจุบันนี้มีแพร่กระจายอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในบ้าน หากเราสามารถดูแลความปลอดภัย โดยสร้างพื้นที่ที่สามารถยับยั้งการเกิดเชื้อโรคได้ ก็จะเป็นการดูแลตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด COTTO จึงไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ช่วยดูแลเรื่องสุขอนามัยของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น ‘กระเบื้อง HYGIENIC TILE’ ที่มี Silver Nano อยู่ในชั้นสีของกระเบื้อง โดยจะส่งประจุบวกเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 90% และยับยั้งไปถึงต้นตอของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังไม่สะสมสิ่งสกปรก จึงทำความสะอาดได้ง่ายกว่ากระเบื้องทั่วไป ช่วยให้การดูแลตัวเองและคนที่คุณรักเริ่มต้นได้จากในบ้าน หรือกระเบื้องฟอกอากาศ COTTO AIR ION ที่มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89 % ภายใน 30 นาที เมื่อติดตั้งกระเบื้อง AIR ION เพียง 40% ของพื้นที่ใช้งานสามารถเพิ่มมวลอากาศสดชื่น โดยไม่ใช้ไฟฟ้า เพื่อมอบอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคนในบ้านภายใต้ฉลาก SCG Green Choice ฉลากที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าได้มั่นใจ ทุกครั้งที่เลือกใช้กระเบื้อง หรือวัสดุตกแต่งภายใต้แบรนด์ COTTO

อย่างไรก็ดี จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้คอตโต้ ( COTTO) ให้ความสำคัญต่อ การวิจัย พัฒนา และนำเทคโนโลยีนำสมัยมาสร้างสรรค์ และผลิตนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่น ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ COTTO ได้รับความไว้วางใจจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทยให้เป็นแบรนด์อันดับ 1 (MARKETEER No.1 Brand Thailand 2021-2022) ในหมวด กระเบื้องปูพื้นบุผนัง ต่อเนื่องติดต่อกันอีกครั้ง นับตั้งแต่เริ่มต้นสำรวจ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจ และมุ่งมั่นที่จะนำกระเบื้อง COTTO ร่วมเป็นส่วนสำคัญ พร้อมผลักดันการสร้างความยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อผู้ใช้งาน ให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตตามวิถี Circular Economy เกิดขึ้นได้ในบ้านของทุกๆ คน ด้วยการร่วมกันสร้างวงกลมแห่งการหมุนเวียนตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มต้นง่ายๆ ในบ้านของเราเพราะ COTTO ไม่ใช่แค่กระเบื้องปูพื้นบุผนัง แต่เป็นพื้นที่คุณภาพเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน ของคนไทย” นายนำพลกล่าวสรุป

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียด ECO COLLECTION เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3aHlD6q COTTO: Fulfill Your Dream ดูข้อมูลสินค้าผ่าน Official website >>https://bit.ly/3Nf2oiC หรือช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน COTTO Life >>https://bit.ly/39hEQuK ติดต่อ Line Official Account : @COTTOlife>>https://bit.ly/3yzZcKb


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard