Advertisement
Leaderboard 728x90

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเวทีการประชุม “APEC MSME 2022” วันแรกวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่โรงแรม ทราย ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต ด้วยการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก “BCG Model” หวังเพิ่มโอกาสและเตรียมพร้อม MSME ไทย รับความท้าทาย เพิ่มขีดความสามารถปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันของเศรษฐกิจโลก ย้ำ MSME เป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่ BCG Model คือตัวเร่งให้ผู้ประกอบการอยู่รอด และเติบโตอย่างยั่งยืน

วีระพงศ์ มาลัย

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การจัดประชุม APEC MSME 2022 ซึ่ง สสว.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในกรอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้เริ่มขึ้นวันนี้ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 เป็นวันแรก เริ่มด้วยการจัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การเร่งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจองค์รวม (BCG Model) สำหรับวิสาหกิจ MMSMEs ในภูมิภาคเอเปค ผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต” (Accelerating Bio-Circular-Green (BCG) Adoption among APEC MMSMEs) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งสร้างความเข้าใจในโอกาส และความท้าทายของการนำ BCG ไปปรับใช้สำหรับ MSME และการร่วมแบ่งปันแนวทางและเครื่องมือนโยบายส่งเสริม MSME เพื่อใช้โอกาสจาก BCG เช่นเศรษฐกิจหมุนเวียน และตลาดสินเชื่อคาร์บอน

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในเขตเศรษฐกิจเอเปค รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ UNESCAP เช่น ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารธนา จาก สวทช. Dr. Vikram Ahuja, Giken Mobility Pte. Ltd., จากสิงคโปร์ Mr. Shabib Rizvi, Policy, Analysis and International Small and Family Business, จากออสเตรเลีย ฯลฯ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของแต่ละเขตเศรษฐกิจ ซึ่งการประชุมนี้ได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ MSME เข้าร่วมงาน โดยมีเขตเศรษฐกิจสมาชิกเข้าร่วม 11 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ไทย เม็กซิโก ชิลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง แคนาดา และบรูไนดารุสซาลาม มีผู้เข้าร่วมประชุมผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์เกือบ 200 คน

สำหรับประเด็นที่มีการแลกเปลี่ยนและเป็นที่สนใจของผู้เข้าร่วมประชุม คือ ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า BCG Model หรือการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม  เป็นแนวทางที่ควรต้องดำเนินการ จากมูลเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ของ GDP รวมทำให้เริ่มมีการมองหาการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการลดการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นการมีขึ้นของตลาดคาร์บอนเครดิตผ่านการกำหนดราคาเมื่อธุรกิจต่างๆ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในปริมาณที่สูงนั้นจะช่วยให้ทั่วโลกมุ่งลดการปล่อยก๊าซ GHG และเริ่มมองว่าการปรับธุรกิจสู่แนวคิดของ BCG นั้น มีความน่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุนมากยิ่งขึ้น และหาแนวทางในการสนับสนุนธุรกิจ ที่มีการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ MSME ให้ความสำคัญกับการดำเนินการในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับธุรกิจสีเขียว การให้ข้อมูลความรู้กับผู้ประกอบการเพื่อให้ปรับตัวเข้าสู่ BCG การสนับสนุนให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชนในกลุ่มสินค้า BCG

“ประเด็นที่มีการพูดถึงกันมาก คือ MSME มีความสำคัญกับการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของทุกเขตเศรษฐกิจ ดังนั้นทำอย่างไรจะให้การพัฒนาเป็นการสร้างความเจริญ ขณะเดียวกันต้องมีความยั่งยืน และที่สำคัญคือต้องสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่ง BCG Model เป็นแนวทางสำคัญที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ โดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี การวิจัย พัฒนา การสร้างนวัตกรรมเพื่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาภายใต้ Concept BCG และยังเป็นโอกาสที่จะช่วยสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม Start up รวมถึงการให้บริษัทขนาดใหญ่ เป็นต้นแบบให้กับ MSME ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทรายใหญ่ และจะนำไปสู่ห่วงโซ่อุปทานโลกได้ในอนาคต”นายวีระพงศ์ ผอ.สสว. กล่าว

อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่างๆรวมถึงข้อคิดเห็นที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ สสว.จะดำเนินการรวบรวม เพื่อจัดทำเป็นรายงานเอเปคและมุ่งพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย  สำหรับการระบุแนวปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ MSMEs ผ่านการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีต่อไป

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard