บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ลุ้นชนะโครงการจัดหาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของกกพ. 5พันเมกะวัตต์ในต้นเม.ย.นี้ หลังผ่านคุณสมบัติและเทคนิค 25 โครงการ รวม500เมกะวัตต์ แย้มเตรียมความพร้อมยื่นเสนอขายไฟฟ้ารอบถัดไป
นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIMเปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประกาศผู้ชนะโครงการจัดหาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี พ.ศ.2565-2573 ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) จะประกาศผลในวันที่ 5 เม.ย.2566 นี้ โดยบริษัทมีโครงการที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติและเทคนิคขั้นต่ำจำนวน 25 โครงการ ประกอบด้วยโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลม รวมกว่า 500 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมความพร้อม เพื่อเตรียมยื่นโครงการพลังงานทดแทนรอบถัดไป ที่ภาครัฐเตรียมเปิดรับซื้อเพิ่มอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ โดยจะยื่นเสนอขายไฟประเภทโซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติม
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมาจากโครงการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งโครงการ SPP Replacement ของ BGRIM ในพื้นที่ EEC รวมทั้งสิ้น 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าปริมาณการขายไฟฟ้ากลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม(IU) จะเพิ่มสูงขึ้น ตั้งเป้าปริมาณขายไฟ IU ปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 50-60 เมกะวัตต์
ส่วนความคืบหน้าโครงการลงทุนในต่างประเทศ ล่าสุด Amata B.Grimm Vietnam Company Limited บริษัทย่อยที่BGRIM ถือหุ้น 51.2% ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน Lotuscom Limited Liability Company บริษัทซึ่งจดทะเบียนในเวียดนาม ที่จะเข้าไปขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)ในเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านิคมอุตสาหกรรม ตั้งเป้าปีนี้ 20 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเข้ามา ส่วนโครงการ Gas to Power ที่เวียดนาม คงต้องรอความชัดเจนจากนโยบายรัฐบาลเวียดนามหลังจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าประเทศเวียดนาม( PDP8 )ล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ BGRIM วางกลยุทธ์การเติบโตในปี พ.ศ.2566-2573 จะมีกำลังการผลิตเติบโตขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 3,338 เมกะวัตต์ โดยจะมี EBITDA มากกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีอัตรากำไร EBITDA ที่ 35% ภายในปี พ.ศ.2573
