BenQ ประกาศความสำเร็จในฐานะแบรนด์อันดับ 1 ตลาดจอแสดงผลภาพ หรือจอกระดานอัจฉริยะ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 10.2% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 และเติบโตมากถึง 77% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา
ข้อมูลวิจัยการตลาด Futuresource พบว่าจอกระดานอัจฉริยะของ BenQ ติดอันดับหนึ่งรวมทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย ไทย และบังกลาเทศ โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา BenQ ได้ให้ความทุ่มเทต่อการผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยี ClassroomCare® เพื่อตอบสนองตลาดการศึกษา ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียนสู่ยุคดิจิทัลให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 ได้รับส่วนแบ่งการตลาด 10.2% ครองแชมป์เป็นอันดับ 1 ทั้ง 5 ประเทศ และยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง 77% ความสำเร็จนี้ทำให้ BenQ คาดการณ์ว่า จอกระดานอัจฉริยะซีรีส์รุ่น RP03 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ สามารถตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีป้องกันแสงสีฟ้าที่ได้รับการรับรองจาก Eyesafe® ตัวแรกของโลก และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสุขภาพของผู้ใช้งานจาก BenQ
ล่าสุด BenQ เปิดตัวโซลูชัน ClassroomCare โดยวางจุดขายให้จอกระดานอัจฉริยะของ BenQ มอบมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ในห้องเรียนและการเรียนรู้ทางไกล หรือแบบไฮบริด ตอบสนองความต้องการของสถาบันการศึกษาที่ต้องการขับเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวสู่ดิจิทัล และขณะเดียวกัน ต้องการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ของสถาบันการศึกษา โซลูชัน ClassroomCare® ช่วยลดอัตราความเสี่ยงด้านสุขภาพของผู้เรียนท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 หรือจากการใช้งานอุปกรณ์ร่วมกันภายในห้องเรียน
จอแสดงผลอัจฉริยะของ BenQ ถูกออกแบบโครงสร้างเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ด้วยหน้าจออินเทอร์เฟซ และปากกา ที่ได้รับการรับรองจาก TÜV และ SIAA ทำให้ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค รวมถึงแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ได้ถึง 99.9% นอกจากนี้ จอกระดานอัจฉริยะของ BenQ ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและสุขภาพอื่นๆ เช่น ไอออนไนเซอร์ เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบพิเศษ เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในห้องเรียนที่อยู่ในตัวเครื่องจะปล่อยไอออนลบเพื่อช่วยฟอกอากาศโดยลดปริมาณอนุภาคแขวนลอยที่สามารถสูดดมได้ปกติ และในตัวเครื่อง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพดวงตาที่รับการรับรองมาตรฐานจาก TÜV และ Eyesafe ที่ช่วยลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของแสงสีฟ้าอีกด้วย