กลุ่มบริษัทบางจาก อัดงบลงทุน 8 ปีข้างหน้าราว 200,000ล้านบาท เพื่อขยาย 5 ธุรกิจหลักดัน EBITDA พุ่งแตะ 100,000 ล้านบาทในปี พ.ศ.2573 จากสิ้นปีนี้คาดว่ามี EBITDA ทะลุ 40,000 ล้านบาท พร้อมปรับวิสัยทัศน์และอัตลักษณ์องค์กรใหม่ “ใบไม้ใบใหม่” เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนใน 8 ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ.2566-2573) อยู่ที่ 200,000 ล้านบาทเพื่อใช้สำหรับขยาย 5 ธุรกิจหลัก โดยแบ่งเป็นงบลงทุนสำหรับปี พ.ศ.2566 อยู่ที่ 45,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) ราว 30,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 7,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพราว 2,000 ล้านบาท และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) อีก 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บางจากตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2573 เติบโตแตะ 100,000 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดจะมี EBITDA เติบโตมาอยู่ 40,000 กว่าล้านบาท หลัง 9 เดือนแรกของปีนี้บางจากฯ มี EBITDA อยู่ที่ 37,773 ล้านบาท
โดยสัดส่วน EBITDA ในปี พ.ศ.2573 จะมาจากธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ราว 50%, ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 18% และธุรกิจพลังงานไฟฟ้าราว 10% ที่เหลือจะมาจากธุรกิจการตลาด และธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
สำหรับกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงนอกกลุ่มยานยนต์เป็นกว่า 60% ภายในปี 2573 โดยจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากน้ำมันยานยนต์และผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Products Refinery) เช่น Unconverted Oil และเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) ซึ่งเตรียมก่อสร้างโรงงานผลิต SAF ขนาด 1 ล้านลิตรต่อวัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าว
ขณะที่สัดส่วนการขายน้ำมันยานยนต์คาดว่าจะปรับตัวลดลงเหลือ 40% ภายในปี พ.ศ.2573 โดยโรงกลั่นน้ำมันบางจากยังคงรักษาระดับกำลังการกลั่นเท่าเดิมที่ 120,000 บาร์เรล/วัน โดยปีหน้าไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นด้วย
ส่วนกลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัทวางเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเติบโตเป็น 1,900 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิล 3,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2573 จากปีนี้มีสถานีบริการน้ำมันบางจากอยู่ที่ 1,340 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิล 1,030 แห่ง โดยปีหน้ามีแผนเพิ่มสถานีบริการน้ำมันเป็น 1,410 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิลเป็น 1,250 แห่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขยายสถานีบริการน้ำมันรูปแบบ Unique Design Service Station เพื่อให้เป็นมากกว่าสถานที่เติมน้ำมัน โดยมุ่งมั่นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ภายใต้การดำเนินงานโดย บมจ.บีซีพีจี (BCPG) วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,800 GWhจากปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 GWhและปีหน้า 3,600 GWhโดยมีสัดส่วนหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียว ทั้งจากโครงการในประเทศที่จะได้รับอานิสงส์จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP 2022) ระหว่างปี 2565-80 และการเติบโตในต่างประเทศตามการเปลี่ยนผ่านพลังงานของโลกสู่พลังงานสะอาด เสริมด้วยธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่และการกักเก็บพลังงานการให้บริการด้านเทคโนโลยีพลังงาน พลังงานรูปแบบใหม่และธุรกิจคาร์บอนต่ำอื่นๆ
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ได้กำหนดแนวทางและเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจหลักกว่า 70% ของ EBITDA ให้มาจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง โดยเน้นการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology หรือ SynBio) เพื่อนำมาออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสุขภาพและความงามของผู้บริโภคสอดรับกับเทรนด์ของโลก เช่น good health and well-being รวมทั้งมีแผนต่อยอดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงอากาศชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel -SAF) สำหรับอุตสาหกรรมการบิน
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานผ่านการขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ โดยในส่วนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีเป้าหมายการผลิตมากกว่า 100,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันภายในปี 2573 จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 17,000 บาร์เรลต่อวัน และปี 2566 อยู่ที่ 22,000-25,000 บาร์เรลต่อวันจากแหล่งปิโตรเลียมในประเทศของนอร์เวย์ผ่านบริษัท OKEA ASA ที่บางจากเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นหลักในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาการเติบโตในธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งอื่นๆ ที่มีศักยภาพในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ ในด้านกลุ่มธุรกิจใหม่อื่นๆ นั้น บริษัทตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วน EBITDA กว่า 7,000 ล้านบาทภายในปี พ.ศ.2573 จากธุรกิจที่กำลังพัฒนา เช่น Winnonieผู้นำแพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และธุรกิจ New S-Curve ใหม่ๆ เป็นต้น
บางจากให้ความสำคัญต่อการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานกับความยั่งยืนของโลก ตอกย้ำแนวทางการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่บริษัทให้ความสำคัญมาตลอดเกือบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจที่มีความเป็นสากลจากการดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก นำมาสู่การปรับพร้อมปรับวิสัยทัศน์ “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว” และอัตลักษณ์องค์กรใหม่เป็น “ใบไม้ใบใหม่” ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 นี้เป็นต้นไป สื่อความหมายแทนด้วยนวัตกรรมพลังงานที่ขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอย่างไม่สิ้นสุด