สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (ทีเส็บ) จับมือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมแผนเดินหน้าผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดประชุมและเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentive: MI) จากกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate Market) ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของการจัดประชุมและเดินทางเพื่อเป็นรางวัล โดยทำการส่งเสริมตลาดร่วมกัน สร้างโอกาสทางธุรกิจและขยายตลาดใหม่ ๆ ในระดับนานาชาติ เร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมุ่งหวังดึงนักเดินทางไมซ์คุณภาพกลุ่มประชุม-อินเซนทีฟเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 500,000 คน ทำรายได้กว่า 33,000 ล้านบาท
นายจิรุตถ์อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (ทีเส็บ) กล่าวว่า ทีเส็บและการบินไทยจะร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2566 โดยเริ่มจากตลาดการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มไมซ์ที่เดินทางเข้าไทยเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นกลุ่มประเทศเป้าหมายตลาดระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตลาดระยะไกลจากยุโรป โดยเฉพาะในเส้นทางประจำของการบินไทย และไทยสมายล์ อาทิ ยุโรป อินเดีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า รวมถึงการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรสนับสนุนงานหลักอื่นๆ ของอุตสาหกรรมไมซ์ ด้วยมุ่งหวังว่าความร่วมมือกันนี้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น ช่วยสร้างแรงจูงใจและอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางไมซ์ในการเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง
นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ทีเส็บ เตรียมแผนในปีหน้านี้ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายการเดินทางมาประชุมสำหรับกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร เป็นการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้นักเดินทางในอุตสาหกรรมไมซ์ ในการเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ผ่านบริการของการบินไทยและไทยสมายล์ ที่ให้บริการครอบคลุมเส้นทางการบินทั่วโลก ร่วมกับการเชื่อมต่อกับกลุ่มสายการบินพันธมิตรสตาร์อัลไลแอนซ์ จึงเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางมาจัดประชุมที่เมืองไทย และเพื่อให้เกิดกิจกรรมที่สอดคล้องกันในการส่งเสริมการเดินทาง จึงจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ประจำปี พ.ศ.2566 ในครั้งนี้
สำหรับความร่วมมือส่งเสริมการตลาดไมซ์ครั้งนี้ ผ่านกิจกรรมการตลาดเชิงรุก ทั้งในด้านการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ การจัดโรดโชว์ในประเทศเป้าหมายหลักๆ รวมทั้งเร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดในต่างประเทศร่วมกันตลอดปี พ.ศ.2566 โดยงานเทรดโชว์หลักของอุตสาหกรรมไมซ์โลกที่มุ่งเน้นส่งเสริมตลาดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ได้แก่ งาน IMEX Frankfurt 2023 ในเดือนพฤษภาคม งาน IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2023 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายน งาน IMEX America 2023 ในเดือนตุลาคม และงาน IBTM World 2023 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ในส่วนกิจกรรมโรดโชว์จะเริ่มจากประเทศในกลุ่ม CLMV ซึ่งมีแนวโน้มกลับมาได้เร็วโดยเฉพาะกัมพูชาและเวียดนาม นอกจากนี้จากการประเมินแนวโน้มตลาดศักยภาพร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม พบว่าประเทศออสเตรเลียเป็นตลาดศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งทีเส็บได้วางแผนจะจัดโรดโชว์ในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์นในช่วงเดือนพฤษภาคม และจะขยายการทำตลาดเชิงรุกเพิ่มเติมในประเทศอินเดีย สิงคโปร์ ยุโรปและสหราชอาณาจักร ผ่านตัวแทนการตลาดในต่างประเทศ อีกทั้งได้เตรียมพร้อมในการรุกตลาดจีน ทันทีที่สถานการณ์อำนวย ปัจจุบันนี้ทีเส็บมีตัวแทนการตลาดประจำใน 7 ประเทศศักยภาพหลัก ได้แก่ ออสเตรเลีย อังกฤษและยุโรป อเมริกาเหนือ อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งได้เร่งทำการตลาดเชิงรุกในหลากหลายรูปแบบทั้งการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อนำเสนอข้อมูลประเทศไทยที่เป็นปัจจุบัน แบบตัวต่อตัว (Sales Calls) การสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างใกล้ชิด (Business Networking)
ทีเส็บ และ การบินไทย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยฟื้นคืนตลาดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้กลับมาได้ไม่น้อยกว่า 60% ของปี 2562 หรือคิดเป็นจำนวนนักเดินทางไมซ์ประมาณ 500,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 33,000 ล้านบาท ซึ่งทีเส็บและการบินไทยยังเตรียมการที่จะออกแคมเปญใหม่ ๆ อีกภายในปี พ.ศ.2566 นี้ เพื่อเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด