Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เผยผลประกอบการ 9 เดือนปี พ.ศ.2565 กำไรสุทธิโต 58.9 % แตะระดับ 1,225.6 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษจากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะในญี่ปุ่น ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.0%

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 สำหรับงวด 9 เดือนของปี พ.ศ. 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,225.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.5 ล้านบาท หรือ  59% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการรับรู้กำไรพิเศษในไตรมาสที่ 2/2565 จากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348.4 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP  มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2565 ที่ 848.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27.0% ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 1,884.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 400.8 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

ในงวดไตรมาส 3/2565  โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 739.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1 ล้านบาท หรือ 8.5 เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงาน 258.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 577.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานหลักที่เติบโตต่อเนื่อง มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 25% และจะเห็นว่า โครงการต่างๆที่บริษัทฯเข้าไปลงทุนล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2565 ยังมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานลม เนื่องจากเป็นซีซั่นที่ดีของลม ทั้งนี้บริษัทฯยังเตรียมปิดดีล M&A อีก 1-2 ดีล ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา โดยเกี่ยวข้องกับธุรกิจ Renewable และธุรกิจที่อยู่ในธีมของ sustainable เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับเทรนด์ในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยมีความคืบหน้าในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 17 เมกะวัตต์  ซึ่งคาดว่ามีความพร้อมที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2567  ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568  จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 232 เมกะวัตต์

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า SSP ประสบความสำเร็จในการเป็นโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ   มีทั้ง green field และ brown field เน้นการใช้กลยุทธ์ทำ M&A strategy มากขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี พ.ศ. 2565 แนวโน้มรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้” นายวรุตม์กล่าว

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard