บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ตอกย้ำความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์รายได้รวมปี พ.ศ.2565 ทะลุ 35,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 20% ผลงานจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI)กล่าวว่า ผลจากการที่แสนสิริมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้า จนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลงานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลงานยอดขายที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายเกินเป้าหมายได้ถึง 50,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มียอดขายรวม 33,500 ล้านบาทถึง 49% นับเป็นปีที่แสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงผลประกอบการในสิ้นปี พ.ศ.2565 ที่คาดว่าแสนสิริจะมีกำไรสุทธิทุบสถิติ New record High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 38 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ล่าสุด แสนสิริยังตอกย้ำความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดการณ์รายได้รวมปี พ.ศ.2565 ที่คาดว่าจะสามารถทำได้เกินกว่า 35,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 20% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 29,558 ล้านบาท ผลงานมาจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย เห็นได้จากความสำเร็จของการ Sold Out ปิดการขายไปถึง 18 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักคาดว่าจะมาจากโครงการแนวราบ จากการเป็นเบอร์หนึ่งเจ้าตลาดอสังหาฯ ในระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของไทย เช่น รายได้จากโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา และ บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา รวมถึงรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม อาทิ เอ็กซ์ที ห้วยขวาง, เอ็กซ์ที พญาไท และเดอะไลน์ พหลโยธิน พาร์ค เป็นต้น
“แสนสิริมั่นใจว่าจะมีผลงานที่แข็งแกร่ง เติบโตทั้งยอดขาย – รายได้ – กำไร ในปี พ.ศ.2565 โดยเฉพาะรายได้ที่จะมีผลงานหนุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่นับว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่ดี จากการที่ลูกค้าจะเร่งตัดสินใจซื้อและโอนที่อยู่อาศัย ก่อนหมดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รวมถึงเกณฑ์ผ่อนคลาย LTV ที่กำหนดสิ้นสุดในปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังเป็นไฮซีซันของการท่องเที่ยวและนับเป็นไตรมาสที่สำคัญจากการที่ลูกค้าจะมองหาและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยแสนสิริเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งแผนการเปิดตัวโครงการใหม่รองรับความต้องการทุกเซกเมนต์ รวมถึงการส่งมอบคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 12,320 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ได้แก่ “เอ็กซ์ที พญาไท” ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ตอบโจทย์กลุ่มมิลเลนเนียลทำเลใจกลางเมือง และคอนโดพร้อมอยู่แนวคิดใหม่ ทำเลคอมมูนิตี้เมือง อย่าง “เดอะมูฟ เกษตร” และ “เดอะมูฟ ราม 22” ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีตั้งแต่ช่วงเปิดตัวโครงการ จึงทำให้มั่นใจว่า ทั้งแผนการขายและโอนจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ผลักดันผลงานทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน” นายอุทัย กล่าว
