นายอเล็กซ์ เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว ว่าบริษัทฯ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า NETA V (เนต้า วี) เป็นโมเดลแรกสำหรับทำตลาดในประเทศไทย แม้ว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเซ็น เอ็มโอยู กับทางกรมสรรพสามิต ซึ่งคาดว่าจะได้เซ็นเอ็มโอยูเรียบร้อยภายในเดือนกันยายนนี้ และจะสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ทันที
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า NETA Vเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Touchable Smart EV” รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ได้รับการออกแบบภายนอกที่ลงตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการออกแบบภายในที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ กุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถในส่วนสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Lithium-Ion Battery) ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที การออกแบบภายนอกทันสมัย การออกแบบและเส้นสายภายนอกตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจากปลาโลมา Dolphin Streamline มีความโฉบเฉี่ยว พร้อมลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบฮาโลเจน พร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
การออกแบบภายในสไตล์มินิมอล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก การออกแบบภายในสไตล์ Hi-Tech Minimalist Concept เบาะหนังสไตล์สปอร์ตออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ Ergonomic Zero Gravity Seat หน้าจอกลาง Infotainment Screen แบบแนวตั้ง ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่าย รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS * ผ่าน Mobile hotspot และ สาย USB เคเบิล* ให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงจากจอเล็กสู่จอใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ GPS นำทาง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ในส่วนแอปพลิเคชันบางแอปพลิเคชันไม่อนุญาตให้ทำการสะท้อนหน้าจอซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแอปพลิเคชันนั้นๆ ความสามารถในการแสดงผลขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการและสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่มีการเชื่อมต่อ แผงหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ระบบปรับอากาศควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส ระบบกรองอากาศ N95 เบาะนั่งด้านหลังพับเก็บได้ ระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Ride & Go function ระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ความจุของกระโปรงหลังรถ 335 ลิตร กรณีพับเบาะหลังจะมีความจุมากถึง 552 ลิตร ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L* (Vehicle to Load) ฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าสู่ภายนอก โดยฟังก์ชัน V2L มีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม/ กำลังไฟฟ้าที่ปล่อยจากรถ 3,300 วัตต์ มีแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 38.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ให้กำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ใช้เวลาต่ำกว่า 3.9 วินาที ระบบ regenerative Systems ช่วยให้รถได้รับพลังงานกลับคืนในทุกครั้งเมื่อชะลอรถหรือเบรก ระบบการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่ (HEPT 3.0) พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Liquid Cooling System) ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“โดยรูปแบบการชาร์จ จะรองรับการชาร์จไฟฟ้าด้วยช่องชาร์จทั้ง Normal Charge (AC) แบบ Type 2 และ Quick Charge (DC) แบบ CCS การชาร์จไฟฟ้าแบบธรรมดา Normal Charge ด้วยไฟกระแสสลับ (AC) ผ่าน NETA Wall Box ใช้เวลาชาร์จ 0%-100% ประมาณ 8 ชั่วโมง การชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว Quick Charge ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ผ่านตู้ชาร์จสาธารณะใช้เวลาชาร์จ 30%-80% ประมาณ 30 นาที* ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ ระบบความปลอดภัยครบครัน ดิสก์เบรกด้านหน้า/หลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะหลัง ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เบรกมือไฟฟ้า ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์”
รถยนต์ NETA V มีให้เลือก 5 สี Midnight Gray, Sakura Pink, Cyan Sky, Blue และ White Stormราคาจำหน่ายอยู่ที่549,000 บาท ลดไป 211,000 บาท จากราคา 760,000 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาที่บริษัทเชื่อมั่นว่าหลังจากได้รับการสนับสนุนจากมาตรการรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐแล้วนอกจากนี้ เนต้ายังมอบความพิเศษสำหรับลูกค้า 3,000 คันแรก จะได้รับเครดิตชาร์จไฟฟ้าที่ PTT Station มูลค่า 7,000 บาท
“หลังจากนำรถมาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2022 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน บริษัทมียอดจองรถรุ่นนี้ไปแล้ว กว่า 3,000 คัน เราจะรีบส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ และบริษัทจะทยอยแนะนำรถใหม่สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจำหน่ายรถยนต์ NETA V นั้น เบื้องต้นเป็นการนำเข้ามาจำหน่ายทั้งคันจากประเทศจีน (ซีบียู) จากนั้นจะเริ่มมีการผลิตจากฐานผลิตภายในประเทศไทย ภายในปี พ.ศ.2567 โดยได้ว่าจ้างให้ บริษัท อรุณพลัส ในเครือของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ NETA ด้านแผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายปีนี้ จะเปิดครบ 30 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีอยู่ 24 แห่ง และมีบริษัทมีโชว์รูม NETA Space ในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พระราม 2”