Advertisement
Leaderboard 728x90

เลกซัส แนะนำ  Lexus RZ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ราคาเริ่ม 3,870,000 บาท

เลกซัส แนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันหรูอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก ราคาเริ่มต้นเพียง3,870,000 บาทในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

นายศุภกร รัตนวราหะรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถรุ่นใหม่ว่า นับตั้งแต่ที่เลกซัส ได้ทำการตลาดมา เรามุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนารถพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ตั้งแต่การแนะนำ SUV หรู ที่เป็นระบบไฮบริดอย่าง “RX 400h” ครั้งแรกในปี 2005 ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” เพื่อตอบสนอง รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง เลกซัสได้มีการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ระบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามีเป้าหมาย ที่จะแนะนำรถไฟฟ้าทุกประเภท ภายในปี 2030 และมีเป้าหมาย การขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทั่วโลก ภายในปี 2035 เพื่อมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ในปัจจุบันรถยนต์ LEXUS Electrified มียอดขายทั่วโลก กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 กว่า 19 ล้านตันทั่วโลก

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

New All-Electric Lexus RZ

New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง หนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังแบบ e-TNGA ที่เลกซัสพัฒนาขึ้นอย่างประณีต รวมถึงการวางตำแหน่งแบตเตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำประกอบกับ DIRECT4 AWD ใน LEXUS RZ ที่ช่วยกระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลัง ตามสภาวะการขับขี่ ทำให้สามารถตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลิน ราบรื่นในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษ เมื่อได้ขับ LEXUS RZ

“นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยแนวคิดในการออกแบบ “Seamless E-Motion” สะท้อนความพริ้วไหว ในแบบของรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังหน้าใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยจนได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ด้านหลังเน้นความเรียบง่ายแต่โดดเด่น เส้นไฟ LED ที่ลากยาวดูเฉียบคม ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ หลังคากระจกพาโนรามาพร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโอ่โถง โปร่งสบาย และคอนโซลด้านหน้าถูกออกแบบภายใต้แนวคิด TAZUNA COCKPIT ที่เน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย LEXUS RZ ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกอย่าง LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้ขับสะดวกยิ่งขึ้น และระบบป้องกันการเปิดประตู เมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Assist และการเลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะ Ultra-suede ที่ผลิตจากพืช (Bio-based sustainable material) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา คล้ายกับหนังกลับคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ด้วยแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงถึง 80% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 308 แรงม้า โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 5.3 วินาทีเท่านั้น สำหรับลูกค้าที่สนใจ และพร้อมเป็นเจ้าของ LEXUS RZ ใหม่ เรามาพร้อมการรับประกัน แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร” นายศุภกร กล่าว

สำหรับการออกแบบกระจังหน้าทรง Spindle Grill ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัสมายาวนาน ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นตัวถังแบบ Spindle Body โดยผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย จนได้เป็นบังโคลนหน้ารูปทรงสามมิติที่โอบรับมาถึงกึ่งกลางตัวถังทั้งสองด้าน พร้อมโคมไฟหน้าพร้อมไฟสูง-ต่ำโปรเจกเตอร์เดี่ยวแบบ Bi-AHS (Adaptive High-beam System) ช่วยกระจายแสงได้อย่างทั่วถึง และชัดเจน พร้อมไฟเลี้ยวที่ดูลุ่มลึกและขับรูปทรงตัว L ของไฟ DRL (Daytime Running Light) พร้อมกับไฟท้ายที่ทอดตัวยาวตลอดแนวขวางเป็นเส้นเพรียวบาง เสริมความเป็น Lexus ให้ยิ่งเด่นชัดดีไซน์ภายใน ควบคุมง่ายได้อย่างใจกับแนวคิดแบบ TAZUNA

-แผงตกแต่งภายในรถยนต์ แผงควบคุมจัดวางในระดับต่ำไม่รบกวนสายตา และแผงคอนโซลระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าดูเรียบง่าย โปร่งโล่งสะอาดตา พร้อมสัมผัสที่ละเมียดละไมแบบ Omotenashiด้วยเบาะหนัง Ultrasuede* นุ่มสบาย และพื้นผิวลายไม้ประณีต

Advertisement
The Xpozir

-พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้พื้นที่บริเวณเบาะหลังกว้างขวาง โดยมีระยะห่างระหว่างตำแหน่งนั่งด้านซ้าย และขวาถึง 39.3 นิ้ว ทรวดทรงของตัวถังที่หลังคาด้านท้ายยกขึ้นสูงช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ และให้ความรู้สึกโอ่โถง เสริมด้วยหลังคาพาโนรามา* ตั้งแต่เหนือเบาะคู่หน้าไปถึงเบาะคู่หลัง ให้ความรู้สึกเปิดกว้างยิ่งขึ้น

-หน้าจอสัมผัสบริเวณกลางคอนโซล พร้อม Apple CarPlayแบบไร้สาย ขนาด 14 นิ้ว สามารถสั่งการฟังก์ชันได้หลากหลายด้วยสวิตช์ในจอ และใช้งานได้อย่างสะดวกเป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด รูปทรง องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงข้อมูล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ

– ตำแหน่งการนั่งขับ ภายในแนวคิดแบบ Tazuna Cockpit ความหมายของ Tazunaคือการควบคุมบังเหียนม้า เป็นการวางตำแหน่งให้ผู้ควบคุมนั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทุกสิ่ง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยมาพร้อมกับสวิตช์ที่เชื่อมต่อหน้าจอ Head-up Display* ทำให้ผู้ขับมีสมาธิ สามารถควบคุมการนำทาง และเสียง ไปจนถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

-หน้าจอ Head-up Display แบบสี* แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูล
สำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ

-ปุ่มควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส* ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือว่าผู้ขับกำลังวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด โดยแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย

-มาตรวัด* รายละเอียดต่างๆ บนจอถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่อ่านได้ง่ายในขณะขับขี่ ข้อมูลทั้งหมดแม่นยำเชื่อถือได้ นอกจากนั้นยังมาพร้อมจอแสดงผลระบบนำทางแบบต่อเนื่องซึ่งจะคำนวณเวลาโดยประมาณที่จะไปถึงจุดหมาย รวมทั้งบอกสถานะของระบบช่วยขับ และระยะทางในการขับขี่

-การตกแต่งด้วยมิติของแสง และเงา สวยงามอย่างแตกต่าง ด้วยการใช้แสง และเงาตกแต่งแผงประตู สร้างมิติที่แตกต่างกันขณะที่ประตูเปิด และปิด เพิ่มความรู้สึกลุ่มลึก และมอบความพิเศษให้ห้องโดยสาร

-ปุ่มควบคุมเกียร์แบบหมุน ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกสบายด้วยการกดและหมุนไปตามตำแหน่งที่ต้องการ สั่งการด้วยระบบ Shift-by-Wire ให้ความรู้สึกมั่นคง และแม่นยำ พร้อมมอบเอกลักษณ์แบบรถไฟฟ้า BEV อย่างแท้จริง

– แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซเนอร์ของเลกซัสอาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสีสำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกมาจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา นอกจากนั้นหน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สีอีกด้วย


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard