ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เป็นค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นรายที่สอง ที่เดินหน้าเข้าโครงการสนับสนุน EV ในระยะเร่งด่วนของรัฐบาล (พ.ศ. 2565-2568) ต่อจากโตโยต้า ไม่รวมค่าย(ทุน) จีน อย่าง เอ็มจี, เกรท วอลล์ มอเตอร์, เนต้า, บีวายดี, โวลต์ ส่วนค่ายเยอรมนี มี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้าร่วมด้วย
สำหรับ โตโยต้า นำเข้า bZ4X เอสยูวีขนาดกลางพลังงานไฟฟ้า 100% มาจากญี่ปุ่น ซึ่งภายใต้โครงการนี้ได้ลดภาษีนำเข้าจาก 20% เหลือ 0% เท่ากับค่ายจีน พร้อมขายในราคา 1.836 ล้านบาท โดยปิดรับจองไปเรียบร้อยด้วยจำนวน 3,356 คัน ซึ่งโตโยต้าไม่ได้ส่งมอบรถให้กับทุกคนที่จองเข้ามา และจะเป็นผู้คัดเลือกคนซื้อเอง คาดว่าจะมีโควต้าขายในปี 2566 ไม่เกิน 500 คัน ก่อนที่จะมีแผนประกอบคืนในประเทศปี พ.ศ. 2567 ไม่รวม Toyota Hilux Revo BEV ที่จะเริ่มประกอบช่วงปลายปี พ.ศ.2566นี้
ในส่วนฮอนด้า ออโตโมบิล ที่มีแผนประกอบรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทยเช่นกัน โดยจะเริ่มปลายปี พ.ศ. 2566 กับรุ่น Honda HR-V EV (ยังไม่ยืนยันชื่อในการทำตลาดในไทย) ซึ่งเป็นการขยับแผนเร็วขึ้น จากเดิมที่เคยวางไว้ในปี พ.ศ. 2567
โดยในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 ฮอนด้าหยั่งเชิงด้วยการนำรถต้นแบบ Honda SUV e:Prototype มาจัดแสดง ซึ่งรถคันนี้ก็คือ Honda HR-VEV ที่เตรียมขึ้นไลน์ประกอบในไทยนั่นเอง
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จของการเปิดตัวยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV รุ่นต่างๆ ของฮอนด้าในประเทศ ไทยที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การขับขี่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังเป็นเทคโนโลยีในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า ล่าสุดบริษัทได้นำ Honda SUV e: Prototype รถต้นแบบ EV มาจัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022
ทั้งนี้ ฮอนด้าแสดงเจตนารมณ์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสนับสนุนการใช้ และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ อีกทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย
อย่างไรก็ตาม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เคยพิจารณาแผนในการนำเข้า EV จากจีนมาทำตลาดเช่นกัน แต่เมื่อสามารถผลักดันให้ขึ้นไลน์ประกอบในประเทศได้เร็วขึ้นเป็นปลายปี พ.ศ. 2566 จากกำหนดเดิมปี พ.ศ. 2567 จึงตัดสินใจรอขาย Honda HR-V EV รุ่นประกอบในประเทศทีเดียว เพราะฮอนด้ามีความมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะมีความพร้อมมากขึ้น โดยเฉพาะสถานีชาร์จไฟฟ้าที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ จะทำให้ลูกค้า ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้ามีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่าง ๆ
“รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานปราจีนบุรี และฮอนด้าเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ซึ่งเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมาในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป เราได้นำรถยนต์โปรโตไทป์ หรือรถต้นแบบไฟฟ้ามาจัดแสดง ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก บวกกับรถที่จะเปิดตัวนั้นผลิตในประเทศไทย ทำให้เราน่าจะสามารถทำราคาออกมาได้ดี และยังได้รับเงินสนับสนุนจากสรรพสามิตด้วย แข่งขันกับแบรนด์จีนได้สบายๆ”นายโนริยุกิ กล่าว
