Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิคบริวเวอรี่ จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น ศูนย์จุดศูนย์ไม่เห็นด้วยกับกรมสรรพสามิตกำลังศึกษาแนวทางการจัดหมวดหมู่ภาษี สรรพสามิตใหม่ ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% สูงกว่าเดิมแต่น้อยกว่าเบียร์ เนื่องจากการขึ้นภาษีแต่ละครั้ง แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์จะฟังดูน้อย แต่เมื่อคำนวณจริงแล้วจะมีผลต่อราคาขายปลีกปลายทางอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการสร้างภาระให้กับผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

ปริญ มาลากุล ณ อยุธยา

นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิคบริวเวอรี่ จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น ศูนย์จุดศูนย์ กล่าวว่า สำหรับที่มีข่าวว่ากรมสรรพสามิตกำลังศึกษาแนวทางการจัดหมวดหมู่ภาษี สรรพสามิตใหม่ ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% สูงกว่าเดิมแต่น้อยกว่าเบียร์ ว่า ไม่เห็นด้วย เนื่องจากการขึ้นภาษีแต่ละครั้ง แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์จะฟังดูน้อย แต่เมื่อคำนวณจริงแล้วจะมีผลต่อราคาขายปลีกปลายทางอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการสร้างภาระให้กับผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

Advertisement
Kreamy Proof

ทั้งยัง นับว่าเป็นการตั้งกำแพงให้ผู้ที่ต้องการดื่มอย่างรับผิดชอบต่อสังคม อาจส่งผลให้ผู้ดื่มหันไปสู่เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ที่มีราคาถูกกว่าแทนที่ แม้จะมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง อันจะส่งผลต่อสุขภาพตัวเอง และส่งผลกระทบต่อสังคมก็ตาม

ทั้งนี้จากข้อมูลของการจัดเก็บรายได้กรมสรรพสามิตปีงบประมาณ2565 โดยในกลุ่มแอลกอฮอล์ จัดเก็บได้ 144,295 ล้านบาท แยกเป็นภาษีเบียร์ 85,035 ล้านบาท คิดเป็น 58.93% และภาษีสุรา 59,260 ล้านบาท คิดเป็น 41.07% ซึ่งรายได้จากภาษีเบียร์เป็นอันดับ 3 รองจากภาษีน้ำมันและภาษีรถยนต์​ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2566 กรมสรรพสามิตตั้งเป้าเก็บรายได้อยู่ที่ 567,000 บาท เพิ่มขึ้น 11.2% จากปี งบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บได้ 503,465 ล้านบาท จึงทำให้รัฐมีนโยบายจะขยายฐานการเก็บภาษีใหม่ๆเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ภายในเดือน พ.ย. 2565 บริษัทจะเข้าไปหารือกับกรมสรรพสามิต เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยที่จะมีการขึ้นภาษีเครื่องดื่มมอลล์ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือปรับไปอยู่หมวดหมู่ใหม่ ที่อยู่ระหว่างเครื่องดื่มปกติกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มมอลล์ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ เบียร์ 0% นั้น เสียภาษีสรรพสามิตในหมวดหมู่เดียวกับเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง ที่ 14% ส่วนเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ อยู่ที่ 5% จะเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 22% อีกทั้งยังเป็นอัตราที่สูงกว่าเครื่องดื่มบางประเภทด้วย

โดยหากจะเก็บภาษีเพิ่มต้องดูว่าหลักการอยู่ตรงไหน และจะทำให้เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ที่บริษัทเพิ่งทำตลาด 3 ปี เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อภาษีปรับขึ้นแต่ละครั้ง จะมีผลต่อราคาขายปลีกสูงขึ้นและผู้บริโภคเข้าถึงยาก โดยสิ่งที่เราต้องการเห็น คือ อยากให้ประเทศไทยมีการยกระดับมาตรฐานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในขณะเดียวกันก็อย่างให้ประชาชนมีแนวทาง มีทางเลือกในการบริโภคอย่างรับผิดชอบ ไม่เป็นภัยทั้งต่อตัวเองและสังคม อันจะส่งผลให้การบริโภค แอลกอฮอล์รวมลดลงได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน สอดคล้องต่อเป้าหมายของ WHO หรือองค์การอนามัยโลก ด้วยเช่นกัน

Advertisement
The Xpozir

“บริษัทอยากอยู่หมวดเดิม และมีความเชื่อมั่นว่าหลังจากที่กรมสรรพสามิตได้ศึกษาและวิเคราะห์อย่างละเอียด สำหรับอัตราภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% คงไม่ตัดสินใจขึ้นภาษีของเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นสินค้าทางเลือกที่ช่วยการดื่มอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและตัวเอง ลดผลกระทบต่อสังคม ที่อาจเกิดขึ้น ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงควรเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการสนับสนุนมากกว่า” นายปริญ กล่าว

ปัจจุบันตลาดเบียร์มีมูลค่ารวมประมาณ 2 แสนล้านบาท เติบโตน้อยลง โดยในปี พ.ศ.2565 นี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% ส่วนเรื่องของราคาขายหลังปรับขึ้นไปเมื่อเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินต้นทุน เพราะมีหลายส่วนที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น พลังงาน แต่คาดว่าจะเริ่มปรับลดแล้ว ส่วนวัตถุดิบอื่นเทรนด์น่าจะขึ้น เช่น มอลต์ ขวด อะลูมิเนียม กล่อง เป็นต้น โดยรวมแล้วต้นทุนน่าจะมีการปรับขึ้นเพราะยังมีค่าขนส่งอีก ขึ้นอยู่การบริหารจัดการ ถ้าสามารถปรับต้นทุนให้อยู่ระดับที่ประทังไปได้ก็ดี แต่ถ้าไม่บาลานซ์กันโอกาสการปรับคงต้องมีขึ้นในอนาคต


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard