แกร็บประเทศไทย เปิดแผนดำเนินงาน ปี พ.ศ.2566 เน้นพัฒนา 4 กลุ่มธุรกิจ ครอบคลุมทุกความต้องการ ชี้เล็งรุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังการท่องเที่ยวฟื้น
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มเห็นสัญญาณบวกและแนวโน้มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในทุกธุรกิจของแกร็บประเทศไทย โดยเฉพาะในบริการขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันบริการการเดินทางของแกร็บกลับมามียอดใช้บริการมากกว่าช่วงก่อนโควิด ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดประเทศ ยอดใช้บริการในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งขึ้นถึง 152%
ขณะที่บริการเดลิเวอรี ยังคงได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้สถานการณ์โควิดจะดีขึ้นตามลำดับ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยผู้ใช้บริการมีความคุ้นชินกับการสั่งอาหารรวมถึงสินค้าหรือของใช้แบบออนดีมานด์ อีกทั้งบริการแกร็บฟู้ดที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งในปีที่ผ่านมาเติบโตสูงกว่าในกรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า
ในส่วนของบริการแกร็บมาร์ทก็เติบโตเช่นเดียวกัน พบว่าเทรนด์การสั่งสินค้าประเภทของสดยังคงได้รับความสนใจมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนเป็น 1 ใน 3 ของสินค้าทั้งหมด ด้านบริการทางเงิน แกร็บประเทศไทยได้มีการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ อาทิ บริการสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ เพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้ในแบบที่ช่วยรักษ์โลก และบริการ PayLaterเพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริหารจัดการด้านการเงินให้กับผู้ใช้บริการซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับในปี พ.ศ.2566 แกร็บ ประเทศไทย มีแผนที่จะขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.บริการการเดินทาง (Mobility) จะมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ ยกระดับมาตรฐานเสริมความเชื่อมั่น, รุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเน้นยกระดับบริการเพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยถึง 28 ล้านคน และเจาะตลาดพรีเมียม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูง
2.บริการเดลิเวอรี (Deliveries) โดยมี 3 ไฮไลท์สำคัญ คือ ตอกย้ำในด้านคุณภาพ (Quality) ของทั้งร้านอาหารบนแพลตฟอร์มและการให้บริการ, เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งอาหารและสินค้า (Efficiency) ด้วยเทคโนโลยีและระบบบริหารจัดการต่างๆ และเน้นสร้างฐานสมาชิกและความภักดีของผู้ใช้บริการ (Loyalty) ผ่านแพ็คเกจสมาชิก GrabUnlimitedด้วยสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
3.บริการทางการเงิน (Financial Services) โดยยังคงมุ่งส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางเงินให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ-ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น การขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าสูงสุดถึง 500,000 บาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารในการขยายธุรกิจและเสริมสภาพคล่องหรือการขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ
4.บริการสำหรับองค์กร (Enterprise) โดยผลักดันบริการผ่าน Grab for Business ช่วยบริหารจัดการทุกบริการของแกร็บสำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการเวลา และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมบุกตลาดโฆษณาเต็มรูปแบบ โดยชู GrabAdsสื่อโฆษณาที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย
