Advertisement
Leaderboard 728x90

เซ็นทรัล จัดงาน Dolce Italia เอาใจนักช้อปด้วยสินค้าคุณภาพจากอิตาลี

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) จัดงาน “Dolce Italia” ประจำปี 2023 มหกรรมสินค้าอิตาลี นำเสนอสินค้าอิตาลีคุณภาพเยี่ยมกว่า 50 แบรนด์ ทั้งในหมวดหมู่แฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ตลอดจนแบรนด์ความงามและน้ำหอม ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำทางด้านคุณภาพ ดีไซน์ และรสนิยมระดับโลก พร้อมโปรโมชันและของขวัญสุดพิเศษให้ลูกค้าเซ็นทรัลทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ช้อปเพลินกันตลอดทั้งแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. – 30 เม.ย. 2566 ที่บริเวณชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ชิดลม

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศอิตาลีและไทยมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นมายาวนาน ภายใต้ความร่วมมือที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม Dolce Italia คือการสานต่อการเป็นพันธมิตรกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเพื่อนำเสนอแบรนด์สินค้าจากอิตาลีที่โด่งดังไปทั่วโลกให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ละแบรนด์ที่คัดสรรมาร่วมจำหน่ายในแคมเปญล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และหัตถศิลป์ชั้นเลิศของชาวอิตาลีในการออกแบบสินค้าแฟชั่น ผลิตภัณฑ์ความงาม ตลอดจนของใช้ของตกแต่งในบ้าน โดยการร่วมมือของเราในครั้งนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลอง 155 ปี แห่งความสัมพันธ์กับประเทศไทยได้อย่างยอดเยี่ยม

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

นายจูเซปเปลามัคเคีย ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปี พ.ศ.2566 ITA ได้ร่วมงานกับห้างเซ็นทรัล ในแคมเปญ Dolce Italia ประจำปี 2023 หลังจากความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในปี 2564 โดย ห้างเซ็นทรัล มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกทั้งออฟไลน์และออนไลน์ของไทย ที่มีศักยภาพในการส่งเสริมสินค้าของอิตาลี ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพสูงจากท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ยังเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำที่ร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างอิตาลีและประเทศไทยมาโดยตลอด โดยล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล ได้ร่วมการประชุม Italian-Thai Business Forum ครั้งที่ 8 เพื่อร่วมกำหนดความร่วมมือและการสานความสัมพันธ์ในหลากหลายมิติ อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศ ดงันั้นแคมเปญ Dolce Italia ในครั้งนี้จะช่วยโปรโมตแบรนด์ยอดนิยมของอิตาลี ทั้งในหมวดหมู่แฟชั่น ความงามและน้ำหอม รวมถึงของใช้และของตกแต่งบ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อิตาลีเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกชั้นนำของโลก โดยในปี พ.ศ.2565 ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน มูลค่าการส่งสินค้าออกสู่ทั่วโลกทั้งหมดของอิตาลีอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี – ISTAT) ซึ่งการนำเข้าสินค้าจากอิตาลีของประเทศไทยมีมูลค่ารวม 62.156 พันล้านบาท โดยจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ อิตาลีเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของประเทศไทย และมีมูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางการค้าของอิตาลีและไทยอย่างมหาศาล โดยการเสาะหาโอกาสทางการค้าเพิ่มเติมจะช่วยหนุนการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนสำหรับทั้งสองประเทศ งาน Dolce Italia ประจำปี 2023 จึงเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการส่งเสริมยอดขายให้สินค้าแฟชั่นของอิตาลีในประเทศไทยตลอดทั้งปีนี้

อิตาลียังเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกสินค้าแฟชั่นที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าแฟชั่นจากอิตาลีของประเทศไทยอยู่ที่ 25,609 ล้านบาทในปี 2565 โดยสินค้าแฟชั่นที่นำเข้ามา 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. เครื่องหนัง (มูลค่า 10,691 ล้านบาท เติบโต 31.99% เทียบกับปีก่อน) 2. เครื่องประดับเพชรพลอย (7,526 ล้านบาท เติบโต 1.34% เทียบกับปีก่อน) 3. รองเท้า (3,135 ล้านบาท เติบโต 14.26% เทียบกับปีก่อน) 4. เสื้อผ้า (1,724 ล้านบาท เติบโต 8.41% เทียบกับปีก่อน)  และ 5. ขนสัตว์ (37 ล้านบาท เติบโต 0.64% เทียบกับปีก่อน) (ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์)

Advertisement
The Xpozir

ตลาดสินค้านำเข้าจากอิตาลีมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์ Made In Italy ในหมวดหมู่อื่นๆ ประสบความสำเร็จในระดับโลกมาจากคุณภาพสินค้า ความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ให้ความสำคัญกับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และหัตถศิลป์ที่ประณีตพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่สะท้อนถึงความคลาสสิกในแบบอิตาลีได้เป็นอย่างดี โดยประเทศอิตาลีมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีการผลิตสินค้ามาโดยตลอด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาดทั่วโลกอยู่เสมอ สินค้าที่ผลิตในอิตาลีจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นายโอลิวิเยร์บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ผ่านการจัดแคมเปญสุดพิเศษอย่าง Dolce Italia ประจำปี 2023 เพื่อให้นักช้อปชาวไทยและต่างชาติได้เต็มอิ่มกับการช้อปสินค้าคุณภาพจากอิตาลีในแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กว่า 75 ปีที่ผ่านมา

เซ็นทรัล มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ช้อปที่ดีที่สุดและนำเสนอสินค้าหลากหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชัน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เราได้ขนทัพสินค้าแบรนด์ดังและแบรนด์ใหม่มาแรงจากอิตาลีทั้งในหมวดแฟชั่น บิวตี้ ของใช้และของตกแต่งบ้าน ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจโดยไม่ต้องบินไปไกล โดยการร่วมมือในครั้งนี้ ยังเป็นการตอกย้ำตำแหน่งของห้างเซ็นทรัลในฐานะ No.1 Shopping Destination ที่มีสินค้าแบรนด์แฟชั่นจากทั่วโลกโดยเฉพาะจากประเทศอิตาลีให้เลือกสรรอย่างครบครันอีกด้วย โดยในปีที่ผ่านมายอดขายสินค้าแบรนด์อิตาลีคิดเป็น 11% ของยอดขายสินค้านำเข้าทั้งหมด และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Dolce Italia จะจัดขึ้นที่บริเวณ ชั้น 1 ของห้างเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นมาร์เก็ตเพลสในสไตล์ Italian Garden พร้อมจัดเต็มโปรโมชันและกิจกรรมสนุกๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตลอดทั้งแคมเปญ ด้วยสัญญาณการฟื้นตัวหลังวิกฤติโควิด-19 ที่เป็นไปในทิศทางบวก และการกลับมาของนักท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศคึกคักมากขึ้น

นางสาวธาพิดานรพัลลภ ประธานบริหาร ฝ่ายบริหารสินค้ากลุ่มแฟชั่น บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ประเทศอิตาลีถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของแฟชั่น ศิลปะวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ โดยคุณค่าเหล่านี้สะท้อนออกมาผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากอิตาลี จึงทำให้แบรนด์อิตาลีเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกทั้งเรื่องดีไซน์และคุณภาพ ซึ่งห้างเซ็นทรัลถือเป็นจุดมุ่งหมายของเหล่านักช้อปที่รวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบรนด์ดังจากอิตาลีไว้อย่างครบถ้วน ทั้งแบรนด์คู่ค้าใหญ่ที่มาจากอิตาลี รวมถึงแบรนด์ที่ห้างเซ็นทรัลนำเข้าเอง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง อาทิ Emporio Armani, Moschino, Tod’s, Emilio Pucci, Max Mara, Furla, Diesel, Coccinelle, Sunnei, EA7 ฯลฯ  รวมถึง  แบรนด์บิวตี้ อาทิ Gucci, Kiko, Bvlgari, Versace, Prada และ Valentino นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ใหม่ที่ห้างเซ็นทรัลนำเข้ามาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศไทยได้แก่

  1. GCDS Kidsแบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของเด็กๆ อันบริสุทธิ์ สดใส สนุกสนาน และ ขี้เล่น ผ่านการผลิตบนมาตรฐานสูงสุดของอิตาลี,
  2. SUÈIแบรนด์รองเท้าสไตล์ Everyday Luxury ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกถึงรายละเอียดการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ‘Only Unique Shoes are Irreplaceable’ ด้วยความพิถีพิถันในการเลือกเฟ้นวัสดุไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือผ้าที่มีความเป็นมาในประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ผสานเข้ากับศาสตร์แห่งงานฝีมือของชาวอิตาเลียน
  3. Lanzettiแบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่ที่ถ่ายทอดรสนิยมอันล้ำเลิศและรุ่มรวยของชาวอิตาเลียน กระเป๋าทุกใบผลิตขึ้นโดยช่างผู้เชี่ยวชาญแบบ 100% Made In Italy
  4. Laboratorio Mariucciแบรนด์กระเป๋างานหนังอิตาเลียนคุณภาพสูงสุด ผ่านฝีมือของปรมาจารย์ด้านการตัดเย็บที่มีความเชี่ยวชาญทั้งงานสร้างสรรค์และนวัตกรรมล้ำสมัย และแบรนด์
  5. Beach Vibesแบรนด์Beachwear Accessories จากมิลาน ครบครันด้วยหลากหลายไอเทมสำหรับชีวิตติดทะเล เช่น กระเป๋า กิโมโนสวมคลุมชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว และแอคเซสเซอร์รีส์อื่นๆ ทุกไอเทมล้วนผลิตจากผ้าอัลตร้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา แห้งไว และพร้อมลุยไปกับคุณได้ทุกที่ และดีต่อสิ่งแวดล้อม

อีกหนึ่งไฮไลต์ในครั้งนี้ คือการนำเสนอสินค้าในหมวดหมู่ของใช้-ของตกแต่งบ้านส่งตรงจากอิตาลี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกช้อปสินค้าของแต่งบ้านหลากหลายแบรนด์อย่างครบครัน อาทิ Alessi, Ballarini, Bialetti, Delonghi, RCR ฯลฯ และภายในงานเรายังมีคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟ BIALETTI X DOLCE & GABBANA แฟชั่นแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน ซึ่งจับมือร่วมกับแบรนด์หม้อชงกาแฟ Bialettiสร้างสรรค์หม้อกาแฟลวดลายพิเศษ โดยนำมาเปิดให้จองภายในงาน  Dolce Italia ครั้งนี้ เพียง 60 ชิ้นอีกด้วย

การจัดงานครั้งนี้เป็นเสมือนเวทีสำคัญที่รวบรวมสินค้าอิตาลีกว่า 50 แบรนด์ไว้ในที่เดียว ที่สำคัญคือสินค้าทุกชิ้น ทุกแบรนด์ เป็นสินค้า Made in Italy การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานการผลิตและฝีมือแบบอิตาเลียนขนานแท้ ผ่านการคัดสรรมาให้ลูกค้าห้างเซ็นทรัลได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งแบบเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างสะดวกสบาย ดุจไปเดินช้อปปิ้งถึงถิ่นในอิตาลีเลยทีเดียว เรามั่นใจว่าผู้ที่ชื่นชอบสินค้าคุณภาพและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จะพบไอเทมที่ถูกใจภายในงานนี้อย่างแน่นอน


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard