Advertisement
Leaderboard 728x90

ธพ.เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 10 เดือนแรกปี’66 อยู่ที่ 152.17 ล้านลิตร/วัน 

กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 152.17 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.3 ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.50 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.9 การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 68.59 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.0 เนื่องจากในปี 2565 (ก.ย. – ต.ค.) มีการใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานเป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.17 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 60.6 เนื่องจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.93 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.8 การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.36 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.8 คาดว่าทั้งปีการใช้จะเติบโต 1-2% ตามทิศทางเศรษฐกิจ

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 152.17 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.3 ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.50 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.9 การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 68.59 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.0 เนื่องจากในปี 2565 (ก.ย. – ต.ค.) มีการใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานเป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.17 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 60.6 เนื่องจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.93 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.8 การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.36 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.8

Advertisement
Kreamy Proof

อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

นอกจากนี้กรมธุรกิจพลังงาน อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อรับทราบแนวทางการปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ( กพช.) เมื่อ 13 ธ.ค. 66 โดยปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เหลือ 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาที่เป็นน้ำมันฐานของประเทศจะมีการผสมไบโอดีเซล (B100) อยู่ที่ร้อยละ 7 ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่สามารถใช้กับน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ที่ค่ายรถยนต์ให้การยอมรับและไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ และให้มีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 เป็นน้ำมันทางเลือก เริ่ม 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้การปรับลดชนิดน้ำมันดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้ปริมาณการใช้ปาล์มน้ำมันลดลง เนื่องจากน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในปัจจุบันมีสัดส่วนผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ร้อยละ 7 อยู่แล้ว โดยมีการใช้ไบโอดีเซลอยู่ที่ 4.33 ล้านลิตร/วัน และการใช้น้ำมันปาล์มอยู่ที่ 3.77 ล้านกก./วัน และคาดว่าในปี 2567 จะมีการใช้ไบโอดีเซล อยู่ที่ 4.66 ล้านลิตร/วัน และการใช้น้ำมันปาล์มอยู่ที่ 3.88 ล้านกก./วัน ตามปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กพช. ได้มอบหมายให้ ธพ. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการอุปทานน้ำมันปาล์มหากได้รับผลกระทบจากการปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลดังกล่าว

น้ำมันมาตรฐานยูโร 5

“ขอให้ประชาชนผู้ใช้รถยนต์มั่นใจ น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ โดยไม่เกิดปัญหาต่อเครื่องยนต์ และช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยจากข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ พบว่า รถยนต์มาตรฐานยูโร 3 และรถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้งานมากที่สุดเมื่อใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงถึง 20 – 24% อีกด้วย” นางสาวนันธิกา กล่าว


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard