Advertisement
Leaderboard 728x90

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพเพื่อโลกที่ยั่งยืน ด้วยสมดุลของพอร์ตธุรกิจจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Thermal Power Business) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Business) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ปี พ.ศ.2565 ด้วยกำไรสุทธิ 3,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวม 5,083 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาเสถียรภาพการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทุกแห่ง รวมทั้งสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีกระแสเงินสดมั่นคง บริษัทฯ ยังคงมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter โดยประสบความสำเร็จในการลงทุนเพิ่มทั้งในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศเวียดนาม และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์เทียบเท่าภายในปี พ.ศ.2568 พร้อมใช้เงินลงทุนประมาณ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจให้ยั่งยืนต่อไป

กิรณ ลิมปพยอม

นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในครึ่งแรกของปี พ.ศ.2565 บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงให้ความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพการผลิตของโรงไฟฟ้าทุกแห่ง และยังคงสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเข้าไปดำเนินงานในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีในสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้บริษัทฯ เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในตลาดที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากการเข้าทำสัญญาอนุพันธ์ในสัดส่วนที่เหมาะสม บริษัทฯ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเป็นอย่างดีสะท้อนจากผลตอบรับที่ล้นหลามจากการจองหุ้นกู้จำนวน 5,500 ล้านบาทในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

โรงไฟฟ้า

สำหรับในไตรมาส 2/2565 ส่วนหลักเกิดจากการเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าเอชพีซี (HPC) ใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) ในไทย ที่มีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor : EAF) สูงถึง 91 และ 94% ตามลำดับ ทำให้สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงนอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Heat and Power : CHP) ทั้ง 3 แห่งในจีน มีปริมาณการขายและราคาขายไอน้ำเพิ่มขึ้น จากความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมบางส่วนที่ฟื้นตัวกลับมา

ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

ในส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในไตรมาส 3 ของปี พ.ศ.2565 คาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชูง็อก (Chu Ngoc) กำลังผลิต 15 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์น็อนไห่ (Nhon Hai) กำลังผลิต 35 เมกะวัตต์ ประเทศเวียดนาม เนื่องจากเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขาย รวมถึงมีโอกาสในการเพิ่มเมกะวัตต์จากการดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปตอบสนองนโยบายสนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลเจิ้งติ้งประเทศจีน

ทั้งนี้ บ้านปู เพาเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานผ่านการลงทุนในบ้านปู เน็กซ์ โดยล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทย ตั้งเป้ากำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ภายในปี พ.ศ.2569

“ครึ่งปีแรกบริษัทฯใช้เงินลงทุนไปประมาณ 50 ล้านเหรียญเท่านั้น ยังเหลือเงินอีก 500-600 ล้านเหรียญ ที่จะนำมาลงทุนในโครงการใหม่ที่กำลังจะปิดดีลเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ต้องใช้ให้หมดภายใน 1-2 ปี เป้าหมายคือการไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เป็นตลาดไฟเสรี เหมือนที่ลงทุนในสหรัฐ โดยมองโอกาสในทั้ง 8 ประเทศที่ลงทุนอยู่ อย่างพลังงานทดแทน พลังงานความร้อง ทั้งเวียดนาม ญี่ปุ่น ส่วนในไทยหากอนาคตเปิดให้เอกชนผลิตพลังงานอื่น ๆ ได้บริษัทฯก็ยินดีพิจารณา” นายกิรณ กล่าว

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard