บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เผยผลการดำเนินงานในรอบปี (ต.ค. 2565 – ก.ย. 2566 ) มีรายได้รวม 48,445.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30,553.64 ล้านบาท (+170.77 %) เทียบปีก่อนที่มีรายได้รวม 17,891.86 ล้านบาทมีกำไรสุทธิ 8,790.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.62 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 11,087.87 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.78 บาท
สำหรับในรอบ 1 ปี มีจำนวนเที่ยวบินรวม 639,891 เที่ยว เพิ่มขึ้น 62.22 % เทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประ เทศ 321,053 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 318,838 เที่ยวจำนวนผู้โดยสาร 100.06 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อน 114.3 % แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 53.91 ล้าน คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.15 ล้านคน
เนื่องจาก ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)ได้คลี่คลายลง ประกอบกับอุตสาหกรมการบินและภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว
AOT คาดว่าอุตสาหกรรมการบินไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะปกติเนื่องจาก จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี จากความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ที่มีมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับรายงานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจการบินฟื้นตัว ทั้งในเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงอยู่ ทั้งความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ จากสงครามรัสเซียและยูเครนตลอดจนสงครามกลุ่มฮามาสและอิสราเอล
ส่งผลกระทบต่อต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของสายการบิน และข้อจำกัดของห้วงอากาศการบิน รวมถึงการกลับมาของการแพร่ระบาด โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และโรคระบาดอื่นๆ
AOT หรือ ทอท. ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย โดยธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่
โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ
