การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)เดินหน้าแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่องส่งมอบน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำถึงมือชาวสวนยางกลุ่มแปลงใหญ่แล้ว 600,000 ลิตร เตรียมรับปลาหมอเพิ่มจากกรมประมงลุยผลิตน้ำหมักชีวภาพล็อตใหม่ หนุนลดต้นทุนการผลิตแก่ชาวสวนยาง
นายณรงศักดิ์ ใจสมุทร รองผู้ว่าการด้านธุรกิจการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานในการนำปลาหมอคางดำมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพว่ากยท. ได้รับซื้อปลาหมอคางดำในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จำนวน 600,000 กิโลกรัม นำมาผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำได้ประมาณ 1 ล้านลิตรและปัจจุบัน กยท. ได้กระจายน้ำหมักชีวภาพฯ จำนวน 600,000 ลิตรถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกแปลงใหญ่ยางพาราทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา และอีก 400,000 ลิตร กยท.มีแผนที่จะดำเนินการจำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้รับการปลูกแทนและเกษตรกรทั่วไปโดยคาดว่าจะจำหน่ายหมดก่อนช่วงฤดูฝน ปี 68 เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรก่อนเริ่มฤดูฝน (พ.ค. –ก.ค.)เนื่องจากในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนำน้ำหมักชีวภาพฯไปใช้บำรุงพืชเกษตรต่อไป
การนำปลาหมอคางดำมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้ได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของกรมพัฒนาที่ดินซึ่งมีราคาถูกกว่าปุ๋ยอินทรีย์เป็นการช่วยลดต้นทุนทางการเกษตรให้กับชาวสวนยางช่วยเพิ่มผลผลิตยางพาราได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือเป็นการสอดรับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลต่อระบบนิเวศดังนั้น กยท.ยังคงเดินหน้าดำเนินการแปรรูปน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่องโดยเบื้องต้น กยท.ได้รับการประสานจากกรมประมงที่มีความประสงค์จะมอบปลาหมอคางดำจำนวน 200 ตันให้กับ กยท. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อให้นำไปดำเนินการผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพฯ ในล็อตต่อไป
“การดำเนินการแปรรูปน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำ นับเป็นความสำเร็จของ กยท.ในการเข้าไปมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำโดยสามารถผลิตน้ำหมักชีวภาพฯ ที่มีคุณภาพส่งถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรได้จริง” รองผู้ว่าการด้านธุรกิจกล่าว