กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การส่งเสริมการออมเพื่อเด็กและเยาวชน” ระหว่างกรมกิจการเด็กและเยาวชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดย นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน และนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้มีความรู้ในการออมเงินกับ กอช. และร่วมวางแผนระยะยาวเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงในชีวิต โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีฯ
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีภารกิจในการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และจัดสวัสดิการให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต ซึ่งการพัฒนาเด็กและเยาวชนมีกลไกสำคัญคือ สภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ ทั้ง 8,778 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงเครือข่ายเด็กและเยาวชนในหลายภาคส่วน เพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาเด็กและเยาวชน
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมการออมให้แก่สมาชิกสภาเด็กและเยาวชน เด็ก รวมถึงเยาวชนในเครือข่ายการดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชน และบุคลากรของกรมกิจการเด็กและเยาวชนที่เป็นสมาชิก กอช. ให้มีความรู้และทักษะทางการเงินส่งเสริมความมั่นคงทางการเงิน และวินัยการออม
นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า เด็กและเยาวชนยังไม่ให้ความสำคัญกับการออม ขาดการวางแผนทางการเงิน มีรายได้ไม่เพียงพอและมีภาระหนี้สิน ประกอบกับโครงสร้างประชากรไทยเด็กเกิดน้อยลงและเป็นสังคมผู้สูงอายุ กรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความมั่นคงของเด็กและเยาวชนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางด้านการเงินการสร้างวินัยในการใช้จ่าย และมีการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตระหนักถึงความสำคัญร่วมกัน จึงได้จัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการออมเพื่อเด็กและเยาวชน ส่งเสริมและพัฒนาสมาชิกสภาเด็กและเยาวชนเป็นเครือข่ายการออม บุคลากรกรมกิจการเด็กและเยาวชน และบุคลากรกระทรวง
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) กล่าวว่า การวางแผนทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตของทุกคน การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในเรื่องการวางแผนการเงิน กล่าวคือ การวางแผนอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย การหาได้ ความพอประมาณ มีเหตุผล การออมความมีเหตุผล ภูมิคุ้มกัน การใช้จ่าย ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ภูมิคุ้มกัน ดังนั้น การมีทักษะการวางแผนการเงิน (Financial Literacy) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีวินัยทางการเงินเพื่อจัดสรร บริหารเงินของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีผลตอบแทนที่ดีต่อการดำรงชีวิตในอนาคต
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก เป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ กอช. จึงเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตให้แรงงานนอกระบบ กล่าวคือ ผู้ที่อายุตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ โดยสามารถเริ่มออมเงินได้ตั้งแต่ 50 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยไม่จำเป็นต้องส่งเท่ากันทุกปี
อายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
อายุ 30 – 50 ปี รัฐสมทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
อายุ 50 – 60 ปี รัฐสมทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
เมื่อสมาชิกนักเรียน จบการศึกษา เข้าสู่ระบบทำงาน ยังสามารถส่งเงินออมสะสมกับ กอช. ต่อได้ โดยเงินที่ออมกับ กอช. นั้น ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้
ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.58 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งยังมีผู้ที่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้อีกประมาณ 8 ล้านคน สำหรับผู้ที่มีสิทธิสมัคร สามารถตรวจสอบสิทธิพร้อมสมัครเป็นสมาชิกได้ ผ่านแอปพลิเคชันของ กอช. หรือไลน์แอด กอช. “@nsf.th” และแอปพลิเคชัน True money
สำหรับน้อง ๆ นักเรียน นิสิต นักศึกษา อายุ 15 ปี ไม่เกิน 30 ปี เพียงเก็บเงินวันละ 10 บาท เมื่อสิ้นเดือนนำมาส่งออมกับ กอช. เดือนละ 300 บาท จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาล เพิ่มอีก 150 บาท ในเดือนถัดไป สามารถดูยอดเงินออมของตนเองได้ที่แอปพลิเคชัน กอช. ได้อย่างสะดวกสบายแค่ปลายนิ้วในความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่ยังไม่มีสวัสดิการด้านเงินให้ได้มีเงินออมไว้ใช้ในอนาคตกับ กอช. พร้อมส่งเสริมวินัยการวางแผนทางการเงินกับ กอช. ผ่านแกน นำสภาเด็กและเยาวชนทุกระดับ ได้แก่ สภาเด็กและเยาวชนตำบล/เทศบาล สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด สภาเด็กและเยาวชนเขต สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปที่มีสิทธิเป็นสมาชิก กอช. ได้เข้าถึงระบบการออมเงินเพื่ออนาคต
