Advertisement
Leaderboard 728x90

กพร. ผนึกกำลัง สวทช. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อขยายผลและผลักดันการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 พร้อมเผยผลสำเร็จการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ตอบรับนโยบาย MIND ของ อก.โดยเฉพาะมิติที่ 1 “ความสำเร็จทางธุรกิจ”ซึ่งเน้นการยกระดับเทคโนโลยีสู่การผลิตสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยี 4.0

ดร.อดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กล่าวว่านับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมผนึกกำลังอย่างเป็นทางการในการขยายผลและผลักดันการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในภาพรวมโดย กพร. และ สวทช. จะร่วมกันพัฒนา แลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ประสบการณ์ และข้อมูลทางวิชาการระหว่างสองหน่วยงานผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆอาทิ การฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับประเทศไทย (Thailand i4.0 Index) การให้คำปรึกษาเชิงลึกเพื่อเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยี 4.0 ให้แก่สถานประกอบการอุตสาหกรรมพื้นฐาน อุตสาหกรรมเหมืองแร่รวมถึงสถานประกอบการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่สนใจรวมทั้งร่วมกันผลักดันสิทธิประโยชน์ด้านต่าง ๆให้แก่สถานประกอบการตามความเหมาะสมเพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำหรับสถานประกอบการที่ได้รับการตรวจประเมินและประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

“ความร่วมมือระหว่าง กพร. และ สวทช. ในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการส่งเสริมและผลักดันอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ของ กพร. ให้เกิดผลสำเร็จในวงกว้างเพิ่มขึ้นและจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ประกอบการที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 ที่สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ได้รวมถึงโอกาสได้สิทธิประโยชน์อื่น ๆเพิ่มเติมที่ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันผลักดันต่อไปแต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะได้จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 คือความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังจะเห็นได้จากตัวอย่าง Success cases ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมพื้นฐานเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ของ กพร. ที่ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบันทุกรายสามารถลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญคิดเป็นมูลค่าตั้งแต่หลักแสน ถึงหลักล้านบาทต่อปี ต่อราย ดังนั้นหากมีการขยายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมพื้นฐานและอุตสาหกรรมเหมืองแร่”ดร.อดิทัตกล่าว

ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)กล่าวว่าสวทช.มีวิสัยทัศน์เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.)เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญของประเทศและนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ กพร.มีภารกิจในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมจึงจำเป็นที่ต้องทำงานร่วมกันโดยสนับสนุนโรงงานอุตสาหกรรมไทยให้เกิดการประยุกต์ใช้วทน. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้ทรัพยากรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้นตลอดจนขับเคลื่อนและผลักดันงานต่าง ๆให้เกิดการถ่ายทอดและขยายผลงานวิจัยที่สร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

“ในปีที่ผ่านมา สวทช.มีความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์การสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ  จึงได้จัดตั้ง Industry 4.0 Platform ขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มให้ผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการด้านต่าง ๆในการยกระดับสถานประกอบการให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาสามารถประเมิน Thailand i4.0 Index ไปแล้ว 405 ราย ให้คำปรึกษาเพื่อการปรับปรุงสายการผลิต 204 รายและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการกว่า 68 รายโดยในปีนี้ได้มีการพัฒนารูปแบบการประเมินแบบออนไลน์และทำได้ด้วยตนเอง (Online Self-Assessment) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถรู้ผลได้ทันทีทำให้ทราบแนวทางในการปรับปรุงยกระดับองค์กรสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยในปีที่ผ่านมามีอุตสาหกรรมพื้นฐานเข้ารับการประเมินแล้วกว่า 30 ราย”ดร.สมบุญกล่าว

สำหรับงานสัมมนาถ่ายทอดองค์ความรู้ “ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ปีที่ 3” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาและยกระดับการประกอบการสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยมีการบรรยายถ่ายทอดองค์ความรู้การประเมินความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วย Thailand i4.0 Index การขอรับสิทธิประโยชน์จากการยกระดับองค์กรสู่อุตสาหกรรม 4.0 ผลสำเร็จของการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมพื้นฐานเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตลอดระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565-2567) และได้รับเกียรติจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการมาร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ตัวอย่างผลสำเร็จการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard