Advertisement
Leaderboard 728x90

โฮมโปร

โฮมโปร กางแผนปี 2566 บาลานซ์พอร์ตฯ รายได้ ขยายสัดส่วนสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เป็น 28% เจาะเพิ่มลูกค้า B2B ปั้นสินค้านวัตกรรม ประเดิมผ้าม่านประหยัดไฟเบอร์ 5 ชูลดค่าไฟปีละ 10% รับโอกาสค่าพลังงานโลกพุ่งต่อเนื่อง

นางสาวอิษฏพร ศรีสุขวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Design & Product Development บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์ปี พ.ศ.2566 บริษัทฯ เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เพิ่มขึ้นเป็น 28% ภายในปีนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วน 23% ของพอร์ตฯ ประกอบด้วย 36 แบรนด์ อาทิ HLS, MOYA, Tara Tile โดยกลุ่มที่เป็นคีย์หลักการเติบโต คือ ผ้า สุขภัณฑ์โดยการขยายสินค้ากลุ่มเฮ้าส์แบรนด์ จะเพิ่มความหลากหลายของสินค้า และผลักดันให้ทุนบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงทำให้การแข่งขันในตลาดให้คึกคัก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสินค้าที่ดีขึ้นตามมา และเกิดผลพลอยได้เชิงบวกไปสู่กลุ่มผู้บริโภคซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ร่วม 10 ปี แต่เพิ่งเริ่มสปีดขยายสัดส่วนตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา โดยเริ่มทำกลุ่มน้ำยา เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่จากสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ดังกล่าว

Advertisement
Kreamy Proof

นอกจากนี้ สินค้าเฮ้าส์แบรนด์กลุ่มที่บริษัทฯ ผลักดันเป็นพิเศษในปีนี้ คือ ECO Product เน้นผลิตภัณฑ์รักษ์โลก และเป็นธรรมชาติ ให้มีสัดส่วน 47% ของพอร์ตฯ สินค้ารวม รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น ลูกค้าเจน Y ของโฮมโปรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

ล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมสิ่งทอคุณภาพสูง หรือ Home Living Style (HLS) สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ชิ้นล่าสุด เป็นผ้าม่านประหยัดไฟเบอร์ 5 แก้โจทย์ปัญหาค่าไฟแพง โดยได้ฉลากเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

สามารถลดความร้อนได้อย่างต่ำ 17% ช่วยการใช้งานของแอร์ ทำให้ลดการใช้พลังงานและบ้านเย็นขึ้น ซึ่งเมื่อปรับอุณหภูมิเพิ่ม 1 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัดไฟได้ 10% (ข้อมูลจากกระทรวงพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน) รวมถึงการไร้สารเคลือบก่อมะเร็ง ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายได้ 1 เดือนแล้ว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เล็งทำสินค้ากลุ่ม category ใหม่ เน้ยความเป็น ECO Product อาทิ ทิชชู่ สินค้าจาก Tropical fruit เช่น น้ำยาล้างจาน ซักผ้า ซึ่งจะลอนช์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยกลุ่มเฮ้าส์แบรนด์ใหม่ ๆ ในปีนี้จะมีมากกว่า 1,000 sku

Advertisement
The Xpozir

นอกจากนี้ สิ่งที่บริษัทฯ จะโฟกัส คือ การทำตลาดกับกลุ่มธุรกิจด้วยกัน หรือ B2B เช่น โรงพยาบาล กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร้านกาแฟ คลินิก เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีสัดส่วนลูกค้าไม่ถึง 10% ของพอร์ตฯ จึงต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้โดยกลยุทธ์ที่บริษัทฯ ใช้ คือ การให้สินค้าราคาถูกลง เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้น เช่น การซื้อหลอดไฟ LED แบบยกลัง การซื้อน้ำยาแบบเป็นถังใหญ่ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเซ็ตสินค้าให้เป็นขนาดใหญ่ขึ้น เช่น การทำแพ็กจานแบบ 6 จาน, 10 จาน ไปจนถึง 12 จาน

สำหรับโฮมโปรในปี 2566 มีแผนลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท เพื่อขยาย 10 สาขา เป็นโฮมโปร2 สาขา โดยสาขาที่ซีคอนบางแค เตรียมเปิดวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ส่วนอีกสาขา คือ สาขาวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี เนื่องจากสาขาบางใหญ่จะหมดสัญญาในกลางปี 2567

อีก 8 สาขาที่เหลือจะเป็นเมกาโฮมซึ่งเปิดไปแล้ว 3 สาขา ได้แก่ รัตนาธิเบศร์,ติวานนท์ และบางพลี จ.สมุทรปราการ ส่วน 5 สาขาที่เตรียมเปิดในอนาคต คือ จ.นครปฐม , ภูเก็ต, เชียงใหม่ ,บางแสน และ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช


Advertisement
Leaderboard 728x90

Leave a Reply