บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนธุรกิจพลังงานดิจิทัล (Digital Power) เร่งผลักดันการประยุกต์ใช้พลังงานสะอาดในภาคครัวเรือนประเทศไทย ด้วยการนำเสนอโปรโมชันพิเศษร่วมกับพาร์ทเนอร์ สำหรับผู้บริโภคที่สนใจติดตั้งโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ FusionSolar ด้วยแพ็คเกจการผ่อนชำระจากลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) นานถึง 7 ปี พร้อมรับของขวัญพิเศษจากหัวเว่ยมูลค่าสูงสุดถึง 12,000 บาท ในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ทชาร์จเจอร์สำหรับใช้ชาร์จพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า เสริมแกร่งสายผลิตภัณฑ์ในโซลูชัน Huawei Residential Smart PV ให้ครอบคลุมทุกการใช้งานตามไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต
ทั้งนี้ โซลูชัน FusionSolar ของหัวเว่ยยังคงมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “1+4+X” เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยโซลูชันดังกล่าวจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ที่เป็นหัวใจหลักของระบบ ช่วยแปลงไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์มาใช้ในบ้าน และอุปกรณ์อีก 4 อย่างคือ ออฟติไมเซอร์ แบตเตอรี่ แอปฟิวชันโซลาร์ รวมถึงสินค้าใหม่อย่าง “หัวเว่ยสมาร์ทชาร์จเจอร์” ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการตั้งค่าให้ความสำคัญของการใช้พลังงานจากแผงโซลาร์ในการชาร์จรถยนต์ของคุณเป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับลูกค้าที่สนใจติดตั้งโซลูชัน FusionSolar ของหัวเว่ย สามารถเข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อจากบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) โดยลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 7 ปี มียอดเงินดาวน์ขั้นต่ำเพียง 16,900 บาท และใช้เวลาในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อภายในเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น นอกจากนี้ ลูกค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์หัวเว่ยภายในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ยังสามารถแลกรับบัตรของขวัญของห้างสรรพสินค้า หรือรับแก็ดเจ็ตอัจฉริยะจากหัวเว่ยที่มีมูลค่าสูงสุดถึง 12,000 บาท ซึ่งรวมถึงนาฬิกา Huawei Band 8, แท็บเล็ต Huawei MatePad 10.4 และนาฬิกา Huawei Watch GT3 Pro โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://solar.huawei.com/th/0investmentcampaign
หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลในระดับโลก แฃะมีบริการรวมถึงโซลูชันต่าง ๆ ที่ได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในกว่า 170 ประเทศ ส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ภายใต้เป้าหมายในการสนับสนุนโครงการจำนวน 30,000 โครงการในช่วงเวลา 3 ปี ข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถลดก๊าซคาร์บอนได้ถึง 265,000 ตัน และตามพันธกิจของหัวเว่ยที่ต้องการ ‘เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย’ เพื่อการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลที่มีความยั่งยืนแห่งอาเซียน