สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยราคาน้ำมันดิบยังผันผวน จากสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 26 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2566) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 75.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 69.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 0.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน หลังเขตเศรษฐกิจหลักของโลกเผชิญกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์หลังอิสราเอลโจมตีเมือง Jenin ในเขต West Bank ของปาเลสไตน์ด้วยโดรนเป็นครั้งที่ 2 รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กลับมามีความไม่แน่นอนอีกครั้ง ท้าให้ตลาดกลับมาจับตาผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันมากขึ้น
ภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 26 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2566) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 75.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 69.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 0.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ ทั้งนี้หลังประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เผยว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในยุโรปยังคงรุนแรง โดยอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 กว่า 3 เท่า ทำให้มีความจำเป็นในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยตลาดคาดว่าการประชุมในเดือน ก.ค. ECB มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกร้อยละ 0.25 และจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน หรือ ตุลาคม อีกทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ยังคงส่งสัญญาว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2566 แม้ว่าตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิถุนายนจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางหลายแห่ง ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกกังวลต่อสถาวะเศรษฐกิจถดถอย และกระทบกับความต้องการใช้เชื้อเพลิง
ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคเอเชีย
ราคาน้ำมันเบนซิน: ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และ 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 90.95เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 86.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 88.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 2.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 2.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 2.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ Petroleum Association of Japan (PAJ) ได้รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.18 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 10.22 ล้านบาร์เรล ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ได้รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 222 ล้านบาร์เรล และ Insights Global ได้รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ที่ Amsterdam- Rotterdam-Antwerp (ARA) ในยุโรป สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.28 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 11.42 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล: ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 92.44 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 92.44 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดย International Enterprise Singapore (IES) ได้รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.25 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 7.98 ล้านบาร์เรล และ EIA ได้รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 114.4 ล้านบาร์เรล
สำหรับค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.52 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 35.5747 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นลดลง 0.19 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 0.11 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.44 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 40,175 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 90,004 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 4,316 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,513 ล้านบาท