กรมขนส่งทางบก เผยสถิติจดทะเบียนรถพลังงานไฟฟ้า ช่วง 5 เดือน ระหว่าง ม.ค.-พ.ค. 2566 มากกว่า 32,450 คัน เพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ.2565 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 474.43% ชวนประชาชนใช้รถพลังงานไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน แก้ปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางสิริรัตน์ วีรวิศาล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่าสถิติการจดทะเบียนของรถพลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2566 ระยะเวลา 5 เดือน มีรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ทั้งสิ้น 32,450 คัน โดยในปี 66 มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาจดทะเบียนที่ ขบ. เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 474.43% แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยกรมฯขอเชิญชวนประชาชนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงประหยัดภาษีประจำปีให้กับเจ้าของรถได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตามกรมฯได้ดำเนินการออกมาตรการในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและมีนโนบายต่างๆ ในการสนับสนุนประชาชนให้มาใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เช่น การลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พ.ย. 2568 โดยให้ลดภาษีลง 80% จากอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
ทั้งนี้ แบ่งเป็น รถเก๋งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 1,600 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 320 บาท รถตู้ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 800 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 160 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 50 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 10 บาท เป็นต้น โดยการลดภาษีประจำปีเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียน
ปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย เพราะไม่เพียงส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สังคม และเศรษฐกิจอีกด้วย ทั้งนี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้รถที่มีเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการปล่อยไอเสียและเกิดสารละอองที่เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่ประกอบด้วยเขม่าเป็นส่วนใหญ่ (PM 2.5) รถพลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV (Electric Vehicle) จึงเป็นรถทางเลือกในการลดมลพิษทางอากาศ เพราะด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนของมอเตอร์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงอย่างน้ำมัน 100% ทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียและการเผาไหม้ใดๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศได้