“ชาตรามือ” แบรนด์ชาไทยอันดับหนึ่งในใจคนไทย ฉลองครบรอบ 80 ปีแห่งการเดินทางจากร้านชายุคบุกเบิก สู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจชาครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนภาคธุรกิจชาไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ประกาศวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ เดินหน้าสู่ Global brand ขึ้นแท่นแบรนด์ดังระดับโลก ตั้งเป้าโต 20 % ขยายสาขา 250 สาขาในประเทศ และ 130 สาขาในต่างประเทศภายในปีนี้ พร้อมจัดกิจกรรมอีเวนต์ใหญ่ฉลอง 80 ปี ชาตรามือ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลากหลายแบรนด์เตรียมเสิร์ฟเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบของชาตรามือ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษภายในงานมากมาย รวมถึงการแข่งขันทำขนมหวาน เครื่องดื่ม โดยใช้วัตถุดิบชาตรามือ และโปรโมชั่นร่วมเซอร์ไพรส์อีกมากมายตลอดปีนี้

ศรีศุภร จาตุรงควนิชย์ กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวว่า 80 ปี ของชาตรามือ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2488 ถึงปัจจุบัน) ที่เติบโตเคียงคู่สังคมไทย ได้มีส่วนร่วมนำความเปลี่ยนแปลงให้กับพฤติกรรมการดื่มชาของคนไทย เพราะเป็นแบรนด์แรกๆ ที่พัฒนาสูตรเครื่องดื่ม “ชาไทย” ชาใส่นมและเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย จนกลายเป็นเมนู “ชาไทย” สูตรต้นตำรับชาตรามือ นอกจากนี้ ชาตรามือ ยังได้สร้างโมเดลร้านชา เพื่อนำเมนูชาไทยที่เคยเป็นสตรีทฟู้ดเข้าไปจำหน่ายในศูนย์การค้า และยังได้ร่วมผลักดัน “Thai Tea” ให้กลายเป็นเมนูเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกรู้จัก เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยอย่างแท้จริง โดยปัจจุบัน ชาตรามือ ถือเป็นผู้นำตลาดชาในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 70 %

พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวว่า ความสำเร็จของชาตรามือ ไม่ได้อยู่แค่เครื่องดื่มชาเท่านั้น แต่รวมถึงการบริหารธุรกิจที่มีรากฐานแข็งแรงและครบวงจร ทั้งยังมีส่วนสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกร และผู้ประกอบการไทยให้เติบโตไปด้วยกัน ตั้งแต่ ต้นน้ำ: ด้วยการดูแล ให้ความรู้ และพัฒนาทักษะ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรไร่ชาบนดอยเขตภาคเหนือของไทย กลางน้ำ: มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่ที่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย สำหรับผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามือ และผลิตวัตถุดิบชาสำหรับชงเครื่องดื่มและของหวาน ถือว่าเป็นหลังบ้านให้กับหลากหลายแบรนด์ดังทั้งในและต่างประเทศ และ ปลายน้ำ: มีสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามือมากถึง 50 SKU จำหน่ายในช่องทาง Modern trade และ Traditional trade ทั้งในประเทศและส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงช่องทาง E-Commerce และ ร้านขายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ชาตรามือ โดยปัจจุบันมี 220 สาขาในประเทศไทย ตั้งเป้าขยายถึง 250 สาขาภายในปีนี้ และ 114 สาขาในต่างประเทศ ตั้งเป้าขยายถึง 130 สาขาภายในปีนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ จากความต้องการสินค้ามากขึ้นจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ทางชาตรามือได้มีการขยายโรงงานและเพิ่มไลน์การผลิตเพื่อรองรับการผลิตสินค้าได้มากขึ้น ทั้งยังตระหนักใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมโดยเลือกการใช้พลังงานธรรมชาติ ใช้แก๊สธรรมชาติและพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ในร้านชาตรามือยังได้นำหลอดชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (แก้วซิกเนเจอร์ขนาด 22 ออนซ์) เพื่อร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนบริเวณร้านชาตรามือ

ศรษฐิกิจ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวถึงแนวทางธุรกิจของชาตรามือในโอกาสครบรอบ 80 ปี ว่า เป้าหมายต่อไป คือการผลักดันให้แบรนด์ชาตรามือก้าวอย่างยิ่งใหญ่สู่การเป็น “แบรนด์ระดับโลก” (Global brand) ด้วยเพราะมองเห็นศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ชาตรามือ เสริมด้วยการมีเมนูชาไทยซิกเนเจอร์ ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก โดยมี 3 กลยุทธ์หลักที่จะนำพา ชาตรามือ สู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลก ได้แก่


1. Expand Market ขยายการส่งออกสินค้าชาตรามือไปยังต่างประเทศมากขึ้น พร้อมกับการขยายสาขาร้านชาตรามือในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้ชื่อของแบรนด์ชาตรามือเป็นที่รู้จักครอบคลุมทั่วโลก ปัจจุบันชาตรามือ มีการส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ชาตรามืออย่างเป็นทางการไปมากกว่า 21 ประเทศ และ มีสาขาในต่างประเทศจำนวน 114 สาขา ใน 11 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง กัมพูชา พม่า มาเลเซีย บรูไน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยในปีนี้มีแผนการขยายไปอีก 4 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา ลาว เม็กซิโก และอินโดนีเซีย ขยายสาขาต่างประเทศรวม 130 สาขา

New products ที่ผ่านมา ชาตรามือ มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า ตัวอย่างสินค้าที่เป็นที่รู้จัก และชื่นชอบของลูกค้า คือชากุหลาบ เป็นที่นิยมมากในโลกโซเชียล ส่งผลให้ชื่อของแบรนด์ชาตรามือ กลายเป็นไวรัลทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังแผนออกสินค้าใหม่ เพื่อการขยายแบรนด์และตลาดชาไทยไปยังตลาดต่างประเทศ

ตัวอย่างโพรเจกต์ความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ในปีนี้ อาทิ Brands แบรนด์รังนก อันดับ 1 ของไทย สร้างสรรค์เมนูพิเศษ (เดือนมกราคม 2568) Universal Music ค่ายเพลงระดับโลก โดยร่วมกับศิลปินดังของค่ายนำเสนอ Tea Making @ ChaTraMue shop (เดือนมิถุนายน 2568) Cremo แบรนด์ไอศกรีมชื่อดังของไทย สร้างสรรค์ไอศกรีมแท่งรสชาไทยครีมชีส ที่ใช้วัตถุดิบชาไทยจากชาตรามือ (เดือนมิถุนายน 2568) Sushiro แบรนด์ซูชิสายพานอันดับ 1 ของญี่ปุ่น สร้างสรรค์เมนูขนมหวานที่ใช้วัตถุดิบชาไทยชาตรามือ (เดือนกรกฎาคม 2568) และ Sculptor แบรนด์แฟชั่นชื่อดังสัญชาติเกาหลี ออกแบบสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า และเครื่องประดับคอลเล็กชั่นพิเศษ (เดือนกรกฎาคม 2568)

ศรัณพัฐ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ชาตรามือ เติบโตเคียงข้างสังคมไทย จนครบรอบ 80 ปี จึงได้เตรียมกิจกรรมและโปรโมชั่นเพื่อเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้อย่างยิ่งใหญ่

เริ่มต้นจากงานอีเวนต์ใหญ่ Thai Tea Festival : Celebrate ChaTraMue 80th Anniversary เฉลิมฉลองชาตรามือ 80 ปี ในวันที่ 19 – 21 กันยายน 2568 ใจกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมสุดยอดความพิเศษจากชาตรามือ อาทิ เมนูพิเศษจากชาตรามือเปิดตัวครั้งแรกในงาน สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นที่ห้ามพลาดเป็นเจ้าของ ครั้งแรก! พาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคาเฟ่ดัง มารวมตัวกันนำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มสูตรพิเศษ และเมนูซิกเนเจอร์จาก
ชาตรามือ และกิจกรรมพิเศษอีกมากมายมาเซอร์ไพรส์ตลอดงาน

Thai Tea Star Challenge การแข่งขันระดับประเทศ ครีเอตเมนูอาหารจากวัตถุดิบชาตรามือ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 บาท พร้อมโล่การันตีความอร่อยจากชาตรามือ โดยจะเริ่มแคมเปญการแข่งขันในไตรมาส 3 ปี 2568

ChaTraMue Shop Campaign สร้างสรรค์เมนูพิเศษฉลองครบรอบ 80 ปี ชาตรามือ มีให้ลิ้มลองเฉพาะที่ร้านชาตรามือ รวมทั้งโปรโมชั่นร่วมลุ้นสิทธิพิเศษมากมาย

“สำหรับชาตรามือ “ชาไทย” ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่คือวัฒนธรรมที่คนไทยมีร่วมกัน และชาตรามือคือแบรนด์ที่เติบโตมาพร้อมกับคุณค่านั้น ตลอด 80 ปี เรามุ่งมั่นพัฒนาชาไทยให้มีความร่วมสมัย ในขณะที่ยังคงสะท้อนอัตลักษณ์ของความเป็นไทย และพร้อมส่งต่อสู่ผู้บริโภคทั่วโลกในแบบที่คนไทยภูมิใจ”ดิฐพงศ์ กล่าว


Leave a Reply