
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยและผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ย้ำบทบาท The Pioneer of Equality ผู้ริเริ่มงานฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ Pride month ต่อเนื่องปีที่ 6 ประกาศความยิ่งใหญ่เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เป็นพื้นที่การแสดงออกความเป็นตัวตนอย่างเท่าเทียม ภายในงาน Thailand’s Pride Celebration 2025 “Pride For All” ชูศักยภาพประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 เดินหน้าปลุกภาคเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ไตรมาส 2 และหนุนอุตสาหกรรมบันเทิง Boys Love-Girls Love ของไทยที่มีอิทธิพลระดับโลก คลิป VDO คลิก : https://youtu.be/VXBccio–DM

โดยในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา พร้อมด้วย คุณวรวิทย์ ตันติประยุกต์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บจก. สไปร์ซซี่ ดิสก์, คุณตรีรนันท์ ลีฬหาวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และพันธมิตร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล, คุณภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร, คุณสุนันทา หามนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, คุณนีฟ มารี คอลิเออร์-สมิธ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย UNDP, คุณเมทินี กิ่งโพยม CEO จาก Muse by Metinee, คุณอรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด, ภญ.พนัชกร นาคราช ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา มอง Pride month เป็นมากกว่าความเท่าเทียม แต่เป็นเสรีภาพ (Freedom), สิทธิมนุษยชน (Human Right) และความเท่าเทียมที่ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องเพศอีกต่อไป (Equality) ซึ่งเป็น 3 สิ่งพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนพึงมี โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศพร้อมเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงตัวตนอย่างอิสระ ทั้งนี้ Pride month คือเทศกาลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยเซ็นทรัลพัฒนา เป็นอันดับ 1 Pride Landmark ที่สร้าง Massive impact ทั่วประเทศได้จริง และขยายพื้นที่จัดงานยิ่งใหญ่ Double size ทุกปี จาก 9 สาขาในปี 2023 สู่ 39 สาขาในปี 2025 และคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานทั่วประเทศรวมกว่า 1.3 ล้านคน ขอขอบคุณความร่วมมืออันแข็งแกร่งจากพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ที่สนับสนุนต่อเนื่อง และทำให้ไทยยกระดับความเท่าเทียม ประสบความสำเร็จผ่านกฏหมายสมรสเท่าเทียมเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอันดับที่ 3 ในเอเชียต่อจากไต้หวัน และเนปาล และเป็นอันดับที่ 38 ของโลก

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสายรุ้ง หรือ Rainbow Economy กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและทรงพลัง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บันเทิง และไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลกกว่า 400-800 ล้านคน คิดเป็น 5-10% ของประชากรโลก ขณะที่ในไทยมีมากกว่า 6 ล้านคน คาดสร้างเงินสะพัดกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี และช่วยเพิ่ม GDP ได้ถึง 0.3% โดยการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดรายได้จากนักท่องเที่ยว กลุ่ม Rainbow Tourism จะสูงถึง 2,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี สำหรับมูลค่าตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกจากกลุ่มนี้ ปี 2025 อยู่ที่ราว 357 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเติบโตสู่ 604.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2032 ขณะเดียวกัน Soft Power อย่างซีรีส์ Girl Love ของไทยก็ได้รับความนิยมระดับโลก มีผู้ชมหลายร้อยล้าน view สร้างเม็ดเงินและอิทธิพลทางวัฒนธรรมมหาศาล โดยหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง คาดจะสร้างรายได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี สะท้อนการเติบโตของ Rainbow Entertainment’
เผยมุมมองเชิงลึกระดับโลก ในประเด็นความหลากหลาย
จากข้อมูล* พบว่าทั่วโลกเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในมุมมองเรื่องความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่ระบุตัวเองเป็น LGBTQIAN+ สูงถึง 23% ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเจเนอเรชัน สะท้อนแนวคิดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพไร้กรอบ ขณะที่กลุ่ม Millennials มีสัดส่วน 14% และเป็นแรงผลักดันหลักในช่วงเริ่มต้น Pride Movement ส่วนกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers อยู่ที่ 5% และ 3% ตามลำดับ โดยมองว่าเป็นกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม ด้านข้อมูลจากสหภาพยุโรป ปี 2023 เผยให้เห็นการเปิดกว้างในระดับนโยบาย โดยอัตราการสนับสนุนการสมรสเท่าเทียมอยู่ในระดับสูง เช่น สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ที่มีถึง 94% เดนมาร์ก 93% และฝรั่งเศส 79% สะท้อนการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมกระแสหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ศักยภาพประเทศไทย LGBTQIAN+ Hub แห่งเอเชีย พร้อมชิงเจ้าภาพ World Pride 2030
“ประเทศไทยได้รับการยอมรับเป็นอันดับ 1 ของโลกด้านศัลยกรรมแปลงเพศ ซึ่งคาดว่าจะผลักดันมูลค่า Medical Tourism สูงถึง 16,000 ล้านบาทในปี 2568* ขณะเดียวกัน ไทยยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางใจของชุมชน LGBTQIAN+ จากทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลี และตะวันออกกลาง ซึ่งมองไทยเป็นการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม (Cultural Celebration) พร้อมด้วย Soft Power จากซีรีส์ Girl Love ของไทยที่ทรงอิทธิพลระดับโลก และ Drag Culture ทำให้ไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 อย่างเต็มภาคภูมิ” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว
ภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีความมุ่งมั่นในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเอเชีย เรามีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก ความปลอดภัย และที่สำคัญคือพลังจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ปีนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะเราจะเดินหน้าสู่การเสนอชื่อที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีเป้าหมายในการจัดงาน World Pride ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะสร้างอิมแพกต์เชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศในระดับโลก ผมขอชื่นชมบทบาทของเซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้ริเริ่มและผลักดันแคมเปญ Pride for All อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 และเป็นกำลังสำคัญที่ร่วมกับกรุงเทพมหานครมาตลอด 3 ปีในการสร้างแลนด์มาร์ก Pride ในเมืองหลักทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือที่สามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยและโอบรับความหลากหลายได้อย่างแท้จริง จากการตอบรับของประชาชนอย่างล้นหลาม เช่น การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมกว่า 600 คู่ในวันแรกของกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ ยิ่งตอกย้ำว่า กรุงเทพมหานครและประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลกที่เปี่ยมด้วยความหมายนี้อย่างแท้จริง
นีฟ มารี คอลิเออร์-สมิธ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย UNDP กล่าวว่า การผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านความเสมอภาค แต่สิทธิทางกฎหมายเป็นเพียงจุดเริ่มต้น — ความท้าทายที่แท้จริงคือการทำให้สิทธิเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงในทุกมิติของการใช้ชีวิต ที่ UNDP เราเชื่อว่าสถานที่ทำงานคือจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ เราจึงร่วมมือกับผู้นำชุมชน สถาบันการศึกษา และพันธมิตรระดับนานาชาติ พัฒนา Inclusion Toolkit คู่มือปฏิบัติที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ครอบคลุม และเปิดโอกาสอย่างแท้จริง ความจริงที่เราต้องเผชิญคือ กว่า 50% ของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทยยังเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน — และสิ่งนี้ต้องยุติได้แล้ว ถึงเวลาที่ภาคธุรกิจจะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเป็นรูปธรรม
อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด กล่าวว่า เมื่อ 6 ปีก่อน เซ็นทรัลพัฒนาเป็นองค์กรแรกที่ลุกขึ้นมาสร้างพื้นที่ Pride และฉลอง Pride month ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับพวกเรา และทำให้เรามองเห็นว่า ‘มันเป็นไปได้’ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสพูดคุยกับเซ็นทรัลเวิลด์เสมอ ว่าอยากเห็นงาน Pride ที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่างาน Countdown เพราะเรามองว่า Pride ไม่ใช่แค่งานของชุมชน แต่คือพลังของสังคมไทยทั้งประเทศ วันนี้ นฤมิตไพรด์พร้อมแล้วที่จะจับมือกับภาครัฐและพันธมิตรทุกภาคส่วน รวมถึงเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อส่งเสียงของประเทศไทยให้ดังก้องบนเวทีโลก ประกาศให้โลกรู้ว่าเราพร้อมเดินหน้าอย่างภาคภูมิ บนเส้นทางแห่งความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง
ตลอดเดือนมิถุนายน สนุกกับ Inclusive Pride Activities แบบ Gen-tailored ที่ออกแบบตามแต่ละเจนฯ ได้แก่ 1) Freedom to be Joyful: 24 จุดถ่ายรูปสีสันแห่งเสรีภาพ, 9 จุดกิจกรรม ART & PLAY Rainbow เปลี่ยนสีขาวเป็นสีรุ้ง ปลุกพลังสร้างสรรค์และเปิดกว้างทางความคิด 2) Freedom to Sparkle: โชว์สุดตระการตาที่เซ็นทรัล 22 สาขา, Meet & Greet กับศิลปิน Boy Love สุดฮอต ที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, รามอินทรา และเวสต์วิลล์ และงานวิ่งฉลองความเท่าเทียม Pride Run เซ็นทรัล สุราษฎร์ 3) Freedom to Heart & Heal: ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมอง กับ 5 เวทีเสวนา Pride Talk และ แคมเปญ “Beyond the Rainbow’ ชวนแชร์มุมมองใหม่ ถึงอนาคตของโลกที่ Beyond Gender อย่างแท้จริง ผ่าน Sharing บอร์ด 4) Freedom to Feel & Have Fun: Pride Market และ Mini Concerts 10 สาขา, Speed Dating “Soulmate สายรุ้ง” ที่เซ็นทรัลเวิลด์, พัทยา, ภูเก็ต และเชียงใหม่ เพียงลงทะเบียนผ่าน CENTRAL X ใครจะรู้…รักแท้ของคุณอาจรออยู่ที่เซ็นทรัล โหลดแอป CENTRAL X ได้แล้ววันนี้ ผ่าน Apple Store and Google Play Store https://central-x.app.link/O2O-PR-PrideForAll2025
พร้อมไฮไลต์ Pride Parde 19 สาขา ยิ่งใหญ่ทุกภูมิภาค ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, สมุย, พัทยา, ชลบุรี, ศรีราชา, จันทบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุบล, อุดร, พิษณุโลก, หาดใหญ่, ภูเก็ต, อีสต์วิลล์, เวสต์วิลล์, อยุธยา, นครปฐม, เชียงราย และโคราช และการจัดพื้นที่แห่งความเท่าเทียม จดทะเบียนสมรสที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เชียงใหม่, จันทบุรี, อุดร, อุบล และอยุธยา