สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2568 มีทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 24.63 แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์ขายในประเทศลดลงร้อยละ 31.78 ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 21.10 ตามยอดส่งออกที่ลดลง
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ในเดือนม.ค. 2568 มีทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลงจากเดือนม.ค. ปีก่อน 24.63 เพราะผลิตขายในประเทศลดลง 31.78% ผลิตได้ 32,059 คัน ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลง 21.10% ที่ผลิตได้ 75,044 ตามยอดส่งออกที่ลดลง ส่วนรถจักรยานยนต์ ผลิตได้ทั้งสิ้น 214,071 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.68% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนม.ค. 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,092 คัน ลดลงจากปีก่อน 12.26%
สำหรับรถยนต์รถยนต์นั่งที่ขายในประเทศได้ในเดือนมกราคม 2567 มีจำนวน 30,610 คัน คิดเป็นร้อยละ 63.65 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 10.92 แบ่งเป็นรถยนต์นั่งสันดาปภายใน (ICE) 12,010 คัน เท่ากับร้อยละ 24.97 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 16.44 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV) 7,022 คัน เท่ากับร้อยละ 14.60 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 28.08 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 965 คัน เท่ากับร้อยละ 2.01 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 884.69 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสม (HEV) 10,613 คัน เท่ากับร้อยละ 22.07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.77 ,รถกระบะมีจำนวน 12,261 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.51
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนมกราคม 2568 ส่งออกได้ 62,321 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 28.13 ต่ำสุดในรอบ 33เดือน เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกมาแข่งขันมากขึ้นในประเทศคู่ค้า และรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือนธันวาคมมีวันหยุดมาก บางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกไปได้น้อยในตลาดออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมกราคม 2568 แบ่งเป็นรถกระบะ 38,491 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 61.76 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 25.40 , รถยนต์นั่ง ICE 13,151 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 21.10 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 33.80 , รถยนต์นั่ง HEV 2,477 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 3.97 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 49.99 และรถ PPV 8,202 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.16 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 20.38
ส่งผลให้เดือนมกราคม 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 68,069.18 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ20.63
เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศปี 2567 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ 2.5% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ จึงขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อซื้อรถกระบะให้เร็วขึ้นจากสี่เดือนเป็นสองเดือนเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตมากขึ้น จ้างงานมากขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราสูงขึ้นซึ่งจะสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เร็วขึ้นตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี
